fbpx skip to Main Content
ดูแลผิวด้วยสมุนไพร

สมุนไพรกับการดูแลผิว

ในปัจจุบันต่างให้ความสำคัญกับความสวยความงามไม่น้อยไปกว่าปัจจัยอื่นในการดำรงชีวิต วันนี้มีเรื่องของสมุนไพรใกล้ตัวที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงามมาฝากกันค่ะ 

  •  ว่านหางจระเข้ ยิ่งสดยิ่งดี ก่อนใช้ต้องล้างให้สะอาด แล้วปอกเปลือกให้เหลือแต่เจลขาวๆ ข้างใน ปั่นจนเป็นน้ำแล้วเอามาทาผิว หมักผม จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและนุ่มนวล หรือถ้าจะพอกแผล ก็จะช่วยให้แผลหายเร็ว เพราะมีสรรพคุณลดการอักเสบและช่วยให้แผลเป็นเล็กลงด้วย ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการแพ้ ก่อนใช้ควรตรวจสอบว่า ตนเองเกิดอาการแพ้หรือไม่ โดยใช้น้ำที่ได้จากวุ้นสีขาวของว่านหางจระเข้ทาตรงบริเวณโคนหู แล้วทิ้งไว้สักพัก ถ้าเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดง แสดงว่าแพ้ ไม่เหมาะที่จะใช้กับผิวหน้าอีกต่อไปค่ะ ถ้าไม่มีอาการแพ้ก็สามารถใช้ได้ตลอด เมื่อใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณหัวสิวจะทำให้หัวสิวแห้งเร็ว

 

ว่านหางจระเข้

  •  แตงกวา จะมีวิตามินสูง ในแตงกวายังมีเอนไซม์ Cryssin ซึ่งช่วยย่อยโปรตีน เอนไซม์ชนิดนี้จะช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้านให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่มเกิดขึ้นมาแทน บางคนใช้แตงกวาสดหั่นเป็นชิ้นๆ วางบนใบหน้าที่ล้างสะอาด แทนน้ำแตงกวา เพื่อช่วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน และช่วยสมานผิว ใช้เป็นประจำจะทำให้ผิวสดชื่น มีน้ำมีนวล น้ำแตงกวายังช่วยลดรักแร้ดำอีกด้วย เพราะน้ำแตงกวามีเอนไซม์ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หยาบกร้านให้หลุดออกไป ทั้งยังช่วยทำให้เซลล์ผิวใหม่ที่เกิดขึ้นมาแทนที่อ่อนนุ่ม  สิ่งที่จะต้องเตรียมมี 1.น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ, 2.น้ำแตงกวาคั้นสด 1 ช้อนชา, 3.น้ำมะนาว 1 ช้อนชา, 4.ผงขมิ้น 1/2 ช้อนชา วิธีทำก็ง่ายๆ เพียงอาบน้ำให้สะอาด แล้วเช็ดตัวให้แห้ง ใช้สำลีชุบน้ำมันมะพร้าวเช็ดบริเวณรักแร้เป็นวงกลม หลังจากนั้นผสมน้ำแตงกวาคั้นสด น้ำมะนาว ผงขมิ้น คนผสมให้เข้ากัน ทาทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด เช็ดให้แห้ง ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ผิวคล้ำใต้วงแขนก็จะค่อยๆ จางลง

 

แตงกวา

 

  •  ขมิ้นชัน ในขมิ้นจะมีสาร Curcumin และมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะ มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราหลายชนิด ใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัว เพื่อให้มีสีเหลืองทอง (สวยแบบสาวโบราณ) ใช้บำรุงผิว และช่วยฆ่าเชื้อที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิดได้อีกด้วย

 

ขมิ้นชัน

 

  •  มะเขือเทศ จะมีสาร Curotenoid และมีวิตามินหลายชนิด น้ำจากผลมะเขือเทศสุกจะมีสาร licopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรีย และน้ำมะเขือเทศสด นำมาพอกหน้าจะรักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง หรืออาจจะฝานบางๆ วางลงบนผิวหน้าก็ได้

 

มะเขือเทศ

 

  • ใบบัวบก ช่วยลดรอยตีนกา วิธีทำใช้ใบบัวบกสดๆ ล้างให้สะอาด หั่นฝอยประมาณ 1/2 ถ้วย เติมน้ำต้มสุกนิดหน่อย นำไปปั่นให้เป็นน้ำข้นๆ กรองเอาแต่น้ำ วิธีใช้ ใช้สำลีชุบทาทั่วใบหน้า หรือจะใช้สำลีแปะไว้ที่ ใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยบำรุงผิวหน้าให้เต่งตึงไร้ริ้วรอย เพราะใบบัวบกมีสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินให้ทำงานได้ดีขึ้น

 

ใบบัวบก

 

  • มะขามเปียก ใช้มะขามเปียกใหม่ๆ คั้นกับน้ำสะอาดต้มสุก กรองเอาแต่น้ำข้นๆ ประมาณ 1 ถ้วย กับนมสดประมาณ 1/2 ถ้วย ผสมให้เข้ากัน หรือจะใส่เครื่องปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน ลูบไล้ทาทั่วผิวกาย ทิ้งไว้พอแห้งและอาบน้ำตามปกติ เพื่อบำรุงผิวกายให้ขาวใสไร้รอยหมองคล้ำ

 

มะขามเปียก

  • ชะเอมเทศ นอกจากจะนำมากินให้ความหวานชุ่มคอแล้วยังป้องกันอาการไอ สารในชะเอมเทศจะทำให้ผิวขาวได้ เพราะสารชนิดนี้ไปลดการทำงานของเอนไซม์ที่สร้างความคล้ำของผิว

 

ชะเอมเทศ

  • หัวไชเท้า ส่วนผสม หัวไชเท้า 1 หัว ขนาดเล็กล้างน้ำให้สะอาด ปอกเปลือก แล้วหั่นบางๆ นำไปปั่นให้พอละเอียด ใส่น้ำมะนาวสด 1 ช้อนแกง ปั่นรวมกันอีกครั้ง ใช้ทาทั่วผิวหน้า (ยกเว้นรอบดวงตาและปาก) ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำจะช่วยลดฝ้า และกระให้สีจางลง

 

หัวไชเท้า

 

  • ยอดขี้เหล็ก 1/2 ถ้วย, น้ำผึ้งแท้ 1/2 ถ้วย, ยอดมะขาม 1/2 ถ้วย วิธีผสม นำยอดขี้เหล็กและยอดมะขามมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ปั่นรวมกับน้ำผึ้งแท้จนละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้เนื้อครีมข้นและเหนียวใช้สำหรับนำมาพอกใบหน้าที่สะอาดแล้วก่อนเข้านอน โดยพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดจะรู้สึกผิวหน้าสดชื่นและเต่งตึงขึ้นด้วย ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ว่ากันว่าเพียงไม่กี่เดือนก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลง จนสามารถสังเกตได้

ขี้เหล็ก

การใช้สมุนไพรต้องดูความเหมาะสมในการใช้ว่าแพ้หรือไม่ หรือให้ศึกษาถึงสรรพคุณหรือสอบถามแพทย์พื้นบ้านเพิ่มเติมถึงวิธีการใช้ต่างๆ เพื่อความปลอดภัยก่อนใช้ค่ะ

ขอขอบพระคุณบทความจาก : www.thaihealth.or.th

Back To Top