ปัญญาเหนียงเยอะ แก้ด้วยดูดไขมันลดเหนียง
ปัญหาเหนียง!!
“เหนียง” คือ เนื้อที่ห้อยอยู่ตรงลำคอบริเวณใต้คาง บางท่านมีลักษณะผิวหนังบริเวณเหนียงหย่อนมีไขมันสะสม บางท่านมีลักษณะไขมันสะสมเยอะมาก จนดูเป็นมีคางสองชั้น ส่งผลทำให้ดูไม่มีกรอบหน้าที่ชัดเจน ดูช่วงแก้มเป็นระนาบเดียวกับใต้คางและลำคอ
เหนียงเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
สาเหตุของปัญหาเหนียงยาน เหนียงห้อย เกิดจากหลายปัจจัย ดังนี้
- ปริมาณไขมันชั้นใต้ผิวหนังบริเวณเหนียงใต้คางมีการสะสมเป็นปริมาณมาก
2. ผิวหนังบริเวณใต้คางและคอห้อยและหย่อนคล้อย เกิดได้จากอายุที่มากขึ้นทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยน้อยลง จากการที่คอลลาเจนในผิวหนังลดน้อยลงเรื่อยๆ หรือการจากการที่มีไขมันสะสมอยู่บริเวณเหนียงใต้คางเป้นจำนวนมากจึงทำให้ผิวหนังบีิเวณดังกล่าวรับน้ำหนักมากขึ้นต้องขยายผิวมากขึ้น ทำให้เกิดการหย่อนยานได้
3. กล้ามเนื้อภายในบริเวณใต้คางและลำคอ (SMAS) หย่อนคล้อยตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น
การแก้ไขปัญหาเหนียงยาน เหนียงห้อย จึงจำเป็นต้องแก้ไขให้ตรงจุด ต้องแก้ที่สาเหตุดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากปริมาณไขมันใต้ผิวหนังที่มีปริมาณมาก มักเกิดจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ไม่ควบคุมอาหาร ไม่ออกกำลังกาย ไขมันที่สะสมเป็นไขมันที่สะสมทั่วร่างกาย ไขมันจะสะสมบริเวณใดมากกว่าขึ้นอยู่กับกรรมพันธ์ุของแต่ละบุคคล จะสามารถเห็นได้จากการที่บางท่านเมื่อน่ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นอาจรู้สึกว่าหน้าท้องใหญ่ขึ้น หรือบางท่านต้นขาต้นแขนใหณ่ขึ้น เช่นเดียวกับในกรณีเหนียงใต้คาง บางท่านอาจมีการสะสมของไขมันได้เร็วหรือมากกว่าบุคคลอื่นได้
เราสามารถลดเหนียงได้อย่างไร ?
วิธีลดเหนียงมีหลากหลายวิธี เช่น
- ดูดไขมันเหนียงใต้คาง
- ออกกำลังกาย
- ฉีดสลายไขมันใต้คาง (Mesofat)
- ร้อยไหมลดเหนียง
- ผ่าตัดลดเหนียงยกกระชับคอ
ดูดไขมันเหนียงใต้คาง ดีอย่างไร ?
- เจ็บน้อย
- ใช้เวลาทำไม่นาน
- แผลเป็นขนาดเล็กมาก
- ฟื้นตัวเร็ว พักฟื้นไม่นาน
- ผลลัพธ์ถาวร เป็นธรรมชาติ
ดูดไขมันเหนียงใต้คาง กับ ฉีดเมโสแฟต สารสลายไขมันที่เหนียงใต้คาง แบบไหนเห็นผลดีมากกว่ากัน?
ดูดไขมันเป็นการดูดไขมันที่สะสมบริเวณเหนียงใต้คางออกมาในปริมาณที่มีการสะสมอยู่ออกทั้งหมด เป็นที่แน่ชัดว่าจะสามารถให้ผลลัพธ์ได้ชัดเจนมากกว่าการฉีดเมโสแฟตที่ในแต่ละครั้งลดลงไม่มากและอยู่ได้ไม่นาน ก็จำเป็นที่ต้องฉีดใหม่เรื่อยๆ ดูดไขมันเหนียง สามารถทำได้ครั้งเดียวเห็นผลชัดหลังจากการดูดไขมันครั้งแรก หากสามารถควบคุมน้ำหนักหลังทำไม่ให้เพิ่มมากขึ้น การสะสมไขมันบริเวณดังกล่าวก็จะไม่กลับมา เมื่อเทียบกับเมโสแฟตจำเป็นที่ต้องฉีดหลายครั้งเพื่อจะสามารถเห็นผลได้ในระดับหนึ่ง
ดูดไขมันเหนียงใต้คางเหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีคางสองชั้น มีไขมันใต้คางปริมาณมาก
- อายุ 20-45 ปี เนื่องจากอายุน้อยผิวหนังภายนอกและกล้ามเนื้อภายในยังตึงกระชับอยู่ แต่เมื่ออายุมากขึ้นผิวหนังภายนอกและกล้ามเนื้อภายในจะมีการหย่อนยาน การรักษาด้วยการดูดไขมันเหนียงใต้คางเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ
- ผู้ที่มีผิวหนังที่ยังมีความยืดหยุ่นดี
- ผู้ที่ต้องการให้เห็นกรอบหน้าชัดเจนมากขึ้น
ผลการรักษาอยู่ได้นานหรือไม่ ?
หลังการรักษาด้วยการดูดไขมันเหนียงใต้คาง ผลลัพธ์จะคงอยู่ถาวรเมื่อควบคุมน้ำหนักได้ดี แต่ถ้าน้ำหนักตัวมากขึ้นไขมันก็สามารถกลับมาสะสมบริเวณที่ดูดไขมันไปได้
ดูดไขมันเหนียงใต้คาง แผลอยู่ตรงไหน ?
แผลขนาดเล็กอยู่บริเวณใต้คางเพียงตำแหน่งเดียว และเนื่องจากแผลอยู่ตามตำแหน่งรอยพับ จึงไม่ทำให้มีแผลเป็น