fbpx skip to Main Content
ประโยชน์กาแฟต่อสุขภาพ

ประโยชน์ของกาแฟและโทษของกาแฟที่มีต่อสุขภาพ

ประโยชน์และโทษของกาแฟ

“เครื่องดื่มกาแฟ” ได้รับความนิยมอย่างมาก ยิ่งหลังจากตื่นนอนในตอนเช้าได้ทานกาแฟ หอมๆ สักแก้วนั้นจะทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า หายง่วงซึม จนบางท่านนั้น ต้องดื่มทุกวัน ทำให้ปัจจุบันนั้น เครื่องดื่มกาแฟเป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะ พนักงานออฟฟิต ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ หรือ คนที่ทำงานดึก  คนขับรถ ที่ต้องอดหลับอดนอน ก็เป็นตัวช่วยที่ดีมาก จะเห็นได้ว่า ร้านกาแฟนั้นเป็นที่นิยมตามปั้มน้ำมัน หรือห้างสรรพสินค้าทุกแห่งจะมีกาแฟขายอยุ่ทั่วไป แล้วกาแฟที่เราดื่มกันทุกวัน วันละหลายแก้วนั้นละ มีโทษ หรือมีประโยชน์ใดต่อสุขภาพบ้าง วันนี้เรามาอ่านบทความสำหรับท่านที่ชอบดื่มกาแฟกันดีกว่าค่ะ

ประโยชน์จากกาแฟ

ประโยชน์จากกาแฟ

กาแฟมีส่วนประกอบอะไรบ้าง

กาแฟมีส่วนประกอบหลักเลยที่ทำให้คนที่ดื่มเข้าไปนั้น สดชื่น กระปี้กระเปร่า นั้นคือ คาเฟอีน ( caffeine)  สามารถพบได้ในเครื่องดื่มหลายชนิดได้แก่ เมล็ดกาแฟ ใบชา  เมล็ดคา น้ำอัดลม คาเฟอีน ถูกผสมลงในน้ำอัดลม ยาแก้หวัดบางชนิด ยาแก้ปวด หรือ ยาลดน้ำหนัก

อย่างรวดเร็ว หลังจากที่ดื่มกาแฟ และคาเฟอีน จะถูกขับออกจากร่างกายในเวลา 4-5 ชั่วโมง คาเฟอีน ไม่สะสมในร่างกาย โดยจะถูกขับออกจากร่างกายจนหมด

ประโยชน์ของกาแฟต่อสุขภาพ

  1. ปริมาณคาเฟอีนจากกาแฟ ในปริมาณที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการหงุดหงิด อารมณ์ซึมเศร้า รวมถึงความเครียดได้ เพราะฉะนั้นการดื่มกาแฟ จึงสามารถทำให้ผู้ดื่มรู้สึกพึงพอใจและมีความสุข
  2. จากการศึกษาพบว่าเมล็ดกาแฟมีสารคาเฟอีน ที่มีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ กระตุ้นประสาทส่วนกลาง ช่วยกระตุ้นระบบประสาท ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น ขจัดอาการเซื่องซึม และความอ่อนล้าได้
  3. ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์ จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริด้า มีการเปิดเผยว่า ผู้ที่มีอายุเข้าสู่วัยกลางคน ควรดื่มกาแฟวันละ 4-5 แก้ว เพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมน GCSF ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์
  4. คาเฟอีนในกาแฟ สามารถช่วยไปขยายหลอดเลือดแดง ที่ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงหัวใจ ซึ่งจะทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เส้นเลือดแดงที่อยู่บริเวณศีรษะหดตัว ในดรณีนี้จะสามารถช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้ด้วย
  5. ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันได้ว่าการดื่มกาแฟวันละ 2-5 แก้ว จะสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งตับได้ เนื่องจากสารคาเฟอีนจะช่วยยับยั้งการเกิดเซลล์ผิดปกติ และกำจัดสารพิษที่ร่างกายได้รับ ออกไปในระดับหนึ่งและยังเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคในช่องปากอีกด้วย
  6. จากการศึกษาของภาคเกษตรและเคมีอาหารของประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า ผู้ที่ชอบดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีโอกาสไม่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ถึง 50% เนื่องจากกาแฟมีคาเฟอีนที่มีคุณสมบัติในการยับยั้ง hIAPP และโพลีเปปไทด์ ที่เป็นตัวการก่อให้เกิดโปรตีนผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานชนิดที่ 2แต่ถ้าผู้ดื่มกาแฟเน้นใส่น้ำตาลลงในกาแฟมากๆ ก็สามารถทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานได้ด้วย
  7. กาแฟมีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ และจะช่วยลดความเสี่ยง ในการการเกิดโรคหัวใจ
  8. เมล็ดกาแฟ มีสรรพคุณช่วยลดระดับตาลในเลือด
  9. กาแฟมีนิโคติน แต่เป็นคนละประเภทกับที่พบในบุหรี่ แต่เป็นวิตามินบีรวมชนิดหนึ่งที่ร่างกายต้องการ ซึ่งวิจามินตัวนี้ สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้
  10. การดื่มกาแฟหลังอาหาร จะช่วยละลายไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัว และให้พลังงานทดแทน และกาแฟยังมีประโยชน์ต่อกระเพาะโดยตรง ทำให้น้ำย่อยที่กระเพาะและตับอ่อนเพิ่มขึ้น ทำให้ไขมันถูกเผาผลาญ การดื่มกาแฟจึงมีส่วนช่วยลดความอ้วนได้
  11. มีงานวิจัยที่ระบุว่าคาเฟอีน จะช่วยกระตุ้นการใช้พลังงานของร่างกาย ทำให้ไขมันสลายตัวเพิ่มขึ้น หลายคนจึงนิยมดื่มกาแฟ เพราะอาจช่วยลดน้ำหนักได้
  12. ช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL) ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จากผลการวิจัยพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟบ่อยๆ จะมีไขมันชนิดดีเพิ่มขึ้น ซึ่งไขมันชนิดนี้จะเป็นตัวช่วยขับไล่คอเลสเตอรอล และช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว
  13. การดื่มกาแฟสามารถ ยังสามารถช่วยป้องกันโรคหอบ บรรเทาอาการหอบหืดเนื่องจากกาแฟมีสารคาเฟอีนที่ช่วยระงับอาการตึงเครียดของประสาทสัมผัสสำรอง จึงช่วยลดการเกิดโรคหอบได้
  14. ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เผยว่า ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟวันละ 4 แก้ว จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีลดลงประมาณ 25% เช่นเดียวกับงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่ได้ระบุว่าผู้ชายที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้
  15. การดื่มกาแฟช่วยป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบีได้
  16. อาจช่วยลดการเกิดโรคตับจากการดื่มสุรา เพราะจากสำรวจพบว่ากาแฟสามารถช่วยลดผลร้ายที่มีต่อตับได้ แต่ในส่วนนี้ยังต้องมีการวิจัยต่อไปว่าสารชนิดใดที่มีประโยชน์ดังกล่าว
  17. กาแฟมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ
  18. ช่วยลดโอกาสเป็นโรคเก๊าท์
  19. การดื่มกาแฟวันละ 2 แก้ว อาจช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกายได้ประมาณ 58%
  20. จากการศึกษาของ University of Bariที่ประเทศอิตาลี พบว่าการดื่มกาแฟวันละ 1-2 แก้ว จะช่วยป้องกันโรคหนังตากระตุกได้ และยังช่วยลดอัตราการกระตุกให้ช้าลงได้ในผู้ป่วย
  21. กาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวช่วยต้านสารพิษที่เกิดจากภายในและภายนอกร่างกาย
  22. กาแฟสามารถชะลอความแก่ แม้ว่าร่างกายจะต้องการออกซิเจนมากก็จริง แต่ถ้ามีออกซิเจนมากเกินไปก็อาจทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งสูงและแก่ชราเร็ว โดยเฉพาะในกาแฟที่เข้มข้นจะทำให้ออกไซด์แตกตัวลดการเกิดมะเร็งได้
  23. กาแฟมีสารประกอบที่มีชื่อว่า Trigonelline ซึ่งเป็นสารที่ทำให้กาแฟมีกลิ่นหอมและมีรสขม สารชนิดนี้มีประสิทธิภาพช่วยป้องกันแบคทีเรียและการก่อตัวของแบคทีเรียได้ จึงสามารถช่วยเรื่องป้องกันฟันผุได้
  24. กลิ่นของกาแฟยัง สามารถช่วยลดอาการอยากอาหารและช่วยฟื้นฟูประสาทรับกลิ่นได้ และทฤษฎีดังกล่าวยังสามารถใช้ได้กับสัตว์ทดลองอีกด้วย
  25. ในด้านของของโภชนาการ การดื่มกาแฟจะช่วยทำให้ร่างกายได้รับของเหลวเข้าไปในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน อีกทั้งในเนื้อกาแฟยังมีไนอะซินซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และการดื่มกาแฟยังช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายได้อีกด้วย
  26. เมล็ดกาแฟ สามารถช่วยทำให้ลมหายใจหอมสดชื่นได้ วิธีการก็คือเอาเมล็ดกาแฟมาอมไว้ชั่วครู่ ลมหายใจของคุณก็จะมีกลิ่นสะอาดและสดชื่นอีกครั้ง
  27. ช่วยกำจัดกลิ่นอาหาร เช่นเดียวกับมะนาว ถ้ามือของคุณมีกลิ่นปลา กลิ่นกระเทียม หรือกลิ่นอาหารแรงๆที่หลุดออกยาก เมล็ดกาแฟเพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ วิธีก็คือให้เทเมล็ดกาแฟลงบนมือแล้วถือเข้าด้วยกันสักครู่ แล้วน้ำมันจากเมล็ดกาแฟจะช่วยดูดซับกลิ่นออกไป หลังจากนั้นก็ให้ล้างมือด้วยน้ำอุ่นและสบู่ให้สะอาดอีกครั้ง
  28. ปัจจุบันมีการนำเมล็ดกาแฟที่เก็บได้จากผลสุกแล้วเอาเนื้อออกมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มากมาย เช่น กาแฟผงสำเร็จรูป กาแฟพร้อมดื่ม เครื่องดื่มแปรรูปชนิดต่างๆ ผสมในขนมอบ ไอศกรีม ขนมหวาน ลูกกวาด ลูกอม หรือนำมาสกัดเอาคาเฟอีน เพื่อใช้ผสมในยา หรือในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง

โทษของกาแฟที่มีต่อสุขภาพ

โทษของกาแฟที่มีต่อสุขภาพ

โทษของกาแฟที่มีต่อสุขภาพ

ถึงกาแฟจะมีคุณประโยชน์มากมาย ในทางกลับกัน ถ้าดื่มในปริมาณมากๆ หรือในบางคนที่มีอาการแพ้ หรือร่างกายมีโรคประจำตัว ที่ไม่เหมาะกับการดื่มกาแฟ ก็อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน

  1. กาแฟมีฤทธิ์เป็นเหมือนยาเสพติดชนิดอ่อน ผู้ที่ดื่มกาแฟจึงมักต้องดื่มเป็นประจำ หรือที่เรียกว่า อาการ “ติดกาแฟ” และนี่อาจเป็นสาเหตุ ที่ทำให้มีผู้ดื่มกาแฟกันมากในปัจจุบัน
  2. กาแฟเพียงถ้วยเดียวก็สามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้เพราะคนส่วนใหญ่มักติดนิสัยการดื่มกาแฟใส่น้ำตาล นมข้นหวาน หรือการใส่ครีมเทียมซึ่งถ้าดื่มเป็นประจำ อาจก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมา
  3. จริงอยู่ที่กาแฟสามารถทำให้ร่างกายรู้สึกมีชีวิตชีวา ไม่ง่วง ไม่เพลีย แต่ในทางกลับกัน หากร่างกายได้รับคาเฟอีนสูงกว่า 150 มิลลิกรัมต่อวัน สารคาเฟอีนตัวนี้ ก็จะไปแทรกแซงการนอนหลับ ทำให้กลายเป็นคนนอนหลับยาก ถึงหลับก็หลับไม่สนิท ทำให้ช่วงเวลาที่หลับนั้นสั้นลง และทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนได้เต็มที่ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ เป็นโรคอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
  4. มีคำแนะนำว่าผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในปริมาณสูง เพราะจากการศึกษาพบว่า คาเฟอีน 250 มิลลิกรัม ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นทั้งตัวบนและล่างในทุกกลุ่ม แต่จะยิ่งสูงมากขึ้นในผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงกว่า 1.5 เท่าของกลุ่มที่มีความดันปกติ
  5. ผู้ทีดื่มกาแฟเป็นประจำ จนกลายเป็นนิสัย หากหยุดดื่มกาแฟกะทันหัน หรือไม่ได้ดื่มกาแฟซักวัน จะเริ่มมีความรู้สึกปวดศีรษะ เกิดความรู้สึกกระสับกระส่าย ร่างกายเกิดความอ่อนเพลีย และง่วงนอน
  6. กาแฟมีสาร theobromine ทำให้มีอาการปวดแสบที่ลิ้นปี่ได้
  7. การดื่มกาแฟอาจทำให้หัวใจ มีการเต้นเร็วกว่าปกติ หรือเต้นไม่เป็นจังหวะได้ เนื่องจากคาเฟอีนในกาแฟมีฤทธิ์กระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจโดยตรง ส่งผลให้อัตราการบีบตัวของหัวใจและปริมาณของเลือดที่สูบฉีดต่อนาทีเพิ่มขึ้น
  8. ควรระวังในการดื่มกาแฟในขณะท้องว่าง เพราะกาแฟมีฤทธิ์ลดการดูดซึมของธาตุเหล็กได้ อีกทั้งยังไม่เหมาะสำหรับ คนที่เป็นโรคกระเพาะ เนื่องจากคาเฟอีนจะไปเร่งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร จนทำให้เกิดอาการปวดท้อง
  9. คาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งของกรด pepsin และ gastrin ซึ่งอาจทำให้โรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้รุนแรงขึ้นได้
  10. ผู้หญิงไม่ควรดื่มกาแฟหลายๆ ถ้วยต่อวัน เพราะการดื่มกาแฟมากๆ สามารถลดความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายลงได้
  11. กาแฟมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ และจะไปลดการดูดกลับของโซเดียม โพแทสเซียม และแคลเซียมออกจากไต ทำให้แร่ธาตุเหล่านี้ถูกขับออกมาพร้อมปัสสาวะ หากร่างกายสูญเสียแคลเซียมออกจากร่างกายบ่อยๆ ในปริมาณมาก จึงอาจเป็นการเพิ่มปัจจัยเสี่ยง ต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน ของผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนได้

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.thaihealth.or.th, fic.nfi.or.th, th.wikipedia.org/wiki/กาแฟ , www.lady108.com

Back To Top