![ปลาไทยประโยชน์มากราคาเบาๆ](https://www.xn--12c8dbdcakpak3h7al.com/wp-content/uploads/2017/09/1-5.jpg)
ปลาไทยพื้นบ้าน หาซื้อง่ายประโยชน์ดีๆ
ปลาไทยพื้นบ้าน หาซื้อง่ายประโยชน์ดีๆ
“โอเมก้า 3” เป็นที่นิยมกันในปัจจุบัน เพราะช่วยบำรุงร่างกายในหลายๆ ด้าน ทั้งหัวใจ สมอง ผิวพรรณ ลดคอเลสเตอรอล และลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง แต่หลายคนอาจทราบแต่เพียงว่า โอเมก้า 3 อยู่ในปลาทะเลน้ำลึกเช่น แซลมอน แต่ที่จริงแล้วกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข บอกว่า ปลาไทยของเรานี่แหละ มีโอเมก้า 3 สูงไม่แพ้ปลาจากต่างประเทศเลยทีเดียว มาดูรายชื่อกันดีกว่าว่ามีปลาอะไรบ้าง
ปลาทะเล
![ปลาจาละเม็ดขาว](http://s.isanook.com/he/0/ud/0/4021/1.jpg)
ปลาจาละเม็ดขาว
1. ปลาจะละเม็ดขาว
ปลาจะละเม็ดมีลักษณะรูปร่างป้อมสั้น เกือบเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ลำตัวแบนข้างมาก ตาค่อนข้างเล็ก จะงอยปากสั้นทู่ ปากเล็กและเฉียงขึ้น พบได้ทั้งในฝั่งอ่าวไทย และบริเวณหมู่เกาะอ่างทองมีอยู่ชุกชุม รวมถึงฝั่งทะเลอันดามัน นิยมนำไปนึ่ง หรือทอด เช่น นึ่งบ๊วย นึ่งซีอิ๊ว
![ปลาสำลี](http://s.isanook.com/he/0/ud/0/4021/2.jpg)
ปลาสำลี
2. ปลาสำลี
ปลาสำลี ไม่มีเกล็ดแข็งบนเส้นข้างตัวตอนปลาย ลำตัวค่อนข้างยาว ปลายจะงอยปากมน สีหลังสีเทาอมน้ำตาล สีข้างและท้อง เป็นสีเทาจางลงมาเรื่อย ๆ บริเวณสันท้องจะเป็นสีขาว ขนาดใหญ่ที่สุดยาวถึง 70 เซนติเมตร และน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม นิยมนำไปทอด ทำปลาสามรส นึ่งสำลี หรือเผาแล้วทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ด
![ปลากะพงขาว](http://s.isanook.com/he/0/ud/0/4021/3.jpg)
ปลากะพงขาว
3. ปลากะพงขาว
ปลากะพงขาวสามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งน้ำจืด และน้ำกร่อย มีรูปร่างลำตัวหนาและด้านข้างแบน หัวโต จะงอยปากค่อนข้างยาวและแหลม พื้นลำตัวสีขาวเงินปนน้ำตาล แนวสันท้องสีขาวเงิน มีขนาดความยาวประมาณ 20-40 เซนติเมตร พบใหญ่สุดถึง 2 เมตร นิยมนำไปทำอาหารได้หลากหลาย ต้ม ผัด แกง ทอด นึ่ง
![ปลาทู](http://s.isanook.com/he/0/ud/0/4021/4.jpg)
ปลาทู
4. ปลาทู
ปลาทูมีลำตัวแป้นยาวเพรียว ตาโต ปากกว้าง จะงอยปากจะแหลม เกล็ดเล็กละเอียด มีความยาวประมาณ 14-20 เซนติเมตร ทำอาหารได้ทั้งนึ่ง ทอด ต้มยำ หรือทำน้ำพริกปลาทู โดยใช้เนื้อปลาทูโขลกผสมรวมกับกะปิ และบ้านเรามีขายทั้งปลาทูนึ่งใส่เข่ง และปลาทูสด
![ปลาเก๋า](http://s.isanook.com/he/0/ud/0/4021/5.jpg)
ปลาเก๋า
5. ปลาเก๋า
ปลาเก๋าเป็นปลาขนาดใหญ่ มีรูปร่างโดยรวม คือ ร่างยาวอ้วนป้อม แบนข้างเล็กน้อย เกล็ดมีขนาดเล็ก สีตามตัวและครีบเป็นดอกดวง แต้ม หรือบั้ง ฉูดฉาดหรือคล้ำทึบแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาด สามารถนำมาทำเมนูได้หลากหลาย ทั้งสามรส นึ่งซีอิ๊ว ผัดฉ่า ราดพริก และลวกจิ้ม
ปลาน้ำจืด
![ปลาดุก](http://s.isanook.com/he/0/ud/0/4021/6.jpg)
ปลาดุก
6. ปลาดุก
ปลาดุกเป็นปลาไม่มีเกล็ด ลำตัวยาว มีหัวที่แบนและแข็ง มีหนวดยาวแปดเส้น มีครีบหลังและครีบก้นยาวเกินครึ่งของความยาวลำตัว นิยมนำไปทอดกรอบ ผัดฉ่า เมนูที่มีรสชาติร้อนแรงเพื่อกลบความคาว ที่นิยมกันมากก็น่าจะเป็น ยำปลาดุกฟู นั่นเอง
![ปลาสวาย](http://s.isanook.com/he/0/ud/0/4021/7.jpg)
ปลาสวาย
7. ปลาสวาย
ปลาสวายมีส่วนหัวค่อนข้างเล็ก แนวบริเวณหัวถึงครีบหลังลาดตรง ตาอยู่เสมอหรือสูงกว่ามุมปาก รูปร่างเพรียวแต่ป้อมสั้น ครีบสีจาง ครีบหางมีแถบสีคล้ำตามแนวยาวทั้งตอนบนและล่าง ปลาสวายอาจจะคาวได้ ดังนั้นวิธีที่นิยมนำมาปรุงอาหารจึงเป็นการทอดกระเทียม หรือนำไปทอดแล้วค่อยราดน้ำยำมะม่วงสับ
![ปลาช่อน](http://s.isanook.com/he/0/ud/0/4021/8.jpg)
ปลาช่อน
8. ปลาช่อน
ปลาช่อนน่าจะเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างมาก มีส่วนหัวค่อนข้างโต รูปร่างทรงกระบอกยาว ครีบหางเรียวปลายมน ปากกว้าง ภายในปากมีฟันเขี้ยวบนเพดาน ลำตัวสีคล้ำอมมะกอกหรือน้ำตาลอ่อน นิยมนำไปใส่ในแกงส้ม ปลาช่อนลุยสวน หรือต้มยำ
![ปลานิล](http://s.isanook.com/he/0/ud/0/4021/9.jpg)
ปลานิล
9. ปลานิล
ปลานิลสามารถอาศัยอยู่ได้ในน้ำจืดและน้ำกร่อย มีขนาดลำตัวใหญ่ ความยาวประมาณ 10-30 เซนติเมตร แพร่ขยายพันธุ์ง่าย และมีรสชาติดี ทำได้หลายอย่างทั้งทอด สามรส ราดพริก นึ่งซีอิ๊ว หรือนึ่งมะนาว
![ปลากราย](http://s.isanook.com/he/0/ud/0/4021/10.jpg)
ปลากราย
10. ปลากราย
มีปากกว้างมาก มุมปากอยู่เลยขอบหลังลูกตา ในตัวเต็มวัยส่วนหน้าผากจะหักโค้ง ส่วนหลังโก่งสูง ในวัยอ่อนจะมีสายเหมือนเสือ และจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเทาเงินเมื่อโตขึ้น ที่เราได้ยินบ่อยๆ คงจะเป็นลูกชิ้นปลากราย ทอดมันปลากราย หรือผัดเผ็ดปลากราย
ได้ไอเดียในการทำอาหารวันนี้กันหรือยังคะ เลือกเอาสักปลาหนึ่ง แล้วทำอาหารให้คนที่คุณรักได้ทานกันดีกว่า แต่ถึงปลาเหล่านี้จะมีโอเมก้า 3 สูง แต่ก็มีไขมันอิ่มตัวสูงเช่นกัน เช่น ปลาสวาย ปลาดุก ดังนั้นควรสลับทานทั้งปลาทะเล และปลาน้ำจืด และอาจสลับทานกับเนื้อสัตว์ไม่ติดมันบ้างนะคะ เพื่อให้ได้สารอาหารที่หลากหลายเพิ่มขึ้นค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจากบทความจาก