รักษาโรคกระดูกเสื่อม ลดอาการปวดหลังด้วยภูมิปัญญาไทย
หากพูดถึงโรคกระดูกเสื่อม “หมอนรองกระดูก” แล้ว วัยรุ่นส่วนใหญ่อาจไม่ค่อยให้ความสนใจสักเท่าไร แต่ถ้าเริ่มทำงานไปได้สักพัก คุณจะเริ่มได้ยินคำนี้บ่อยขึ้น หรือบางทีอาจได้ยินเองจากปากของหมอ เมื่อคุณไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล จากอาการปวดหลัง ปวดคอ
หมอนรองกระดูก คืออะไร?
หมอนรองกระดูก คือเนื้อเยื่อที่ลักษณะด้านนอกเป็นเหมือนพังผืดเหนียวๆ ซ้อนกันเป็นวงรอบหลายๆ ชั้น และด้านในนุ่มๆ หยุ่นๆ คล้ายวุ้น พบในบริเวณส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ ที่วางพาดยาวไปตั้งแต่คอ อก จนถึงเอว
หมอนรองกระดูก มีหน้าที่ และความสำคัญอย่างไร?
หมอนรองกระดูกทำหน้าที่เป็นข้อต่อในการขยับของกระดูกสันหลัง และรับแรงกระแทกเมื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น นั่ง ยืน กระโดด เอนหลัง บิดตัว และอื่นๆ เหมือนกับเป็น “โช้คอัพ” ให้กับกระดูกสันหลังของเรา ของนอกจากนี้หมอนรองกระดูกยังคอยปกป้องไม่ให้กระดูกสันหลังเคลื่อนที่อีกด้วย
ทำไมวัยทำงานถึงเสี่ยงหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท?
ที่หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นอาการที่พบได้บ่อยๆ ในหมู่วัยทำงาน อายุระหว่าง 20-50 ปีนั้น เพราะเป็นวัยที่ใช้ร่างหนัก พักผ่อนน้อย และอาจจำเป็นต้องทำงานในสถานที่ และเวลาที่จำกัดอยู่เสมอๆ รวมถึงพฤติกรรมเหล่านี้ที่เสี่ยงต่ออาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท มีอาการอย่างไร?
เมื่อกระดูกสันหลังได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง หรือหมอนรองกระดูกเริ่มเสื่อมสภาพ ของเหลวภายในหมอนรองกระดูกอาจไหลทะลักออกมา แล้วไปกดทับเส้นประสาทรอบๆ จนทำให้เกิดอาการผิดปกติขึ้นได้ สัญญาณของอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท คือ
– ปวดบริเวณเอว คอ อก หรือหลังช่วงล่าง ปวดจิ๊ดๆ เหมือนไฟฟ้าช็อต ปวดๆ หายๆ มากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป
– บางครั้งอาการปวดอาจร้าว หรือเจ็บแปลบไปถึงต้นขา น่อง หรือเท้าได้
– อาจมีอาการชาในบริเวณที่ปวด
– บริเวณเอว หลังช่วงหลัง หรือคอรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ขยับลำบาก
– กล้ามเนื้อบริเวณคอ หลัง เอว อก ต้นขา น่องขา หรือหลังเท้าอ่อนแรง
– หากอาการรุนแรง อาจรู้สึกชาไปถึงรอบอวัยวะเพศ รอบก้น และการขับถ่าย หรือปัสสาวะลำบาก
พฤติกรรมเสี่ยง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
1. ก้มๆ เงยๆ บ่อยๆ หรือมากเกินไป
2. ยกของหนักซ้ำๆ ท่าเดิมๆ
3. ผู้ที่มีอาชีพที่ต้องทำงานอยู่ในบริเวณที่มีการสั่นสะเทือนบ่อยๆ เช่น เขตก่อสร้าง
4. ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก
5. อยู่ท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานานเกินไป โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ เช่น ผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป
ป้องกันหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้อย่างไร?
1. ไม่ยกของหนัก หรือยกของท่าเดิมๆ มากเกินไป
2. ควรปรับเปลี่ยนอิริยาบถในการทำงานทุกๆ 2-3 ชั่วโมง
3. หมั่นออกกำลังกาย ทำการบริหารเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัง และหน้าท้องให้แข็งแรง
ท่ากายบริหารเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลัง และหน้าท้อง ป้องกันอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
1) นอนหงาย ยกขาขึ้นข้างหนึ่งให้สูงจากพื้นประมาณ 1คืบ เข่าเหยียดตรง กระดกปลายเท้าเข้าหาตัว ค้างไว้ 5 วินาที แล้วทำสลับกับขาอีกข้าง
2) นอนหงาย ใช้มือทั้งสองกอดเข่าข้างหนึ่ง โน้มเข่าลงมาให้ชิดลำตัว ค้างไว้ 5 วินาที แล้วทำสลับกับเข่าอีกข้าง
3) นอนหงาย ชันเข่าขึ้น ประสานมือสองข้างไว้ด้านหลังบริเวณเอว จากนั้นแขม่วท้อง กดหลังลงค้างไว้ 5 วินาที
ในแต่ละท่า ควรทำซ้ำ 3-5 ครั้ง ทุกวัน
วิธีรักษาโรคกระดูกเสื่อม ด้วยภูมิปัญญาไทย
โรคกระดูกเสื่อมเกิดจากการเสื่อมสมรรถภาพของกระดูกในร่างกายของเรา มักจะเกิดในวัยกลางคน วัยสูงอายุ สังเกตเห็นได้ชัดว่าเมื่อเคลื่อนไหวจะมีเสียงกร๊อบแกร๊บ กร๊อบแกร๊บ บางทีก็จะปวดตตรงข้อกระดูก ปวดหลัง รู้สึกขัดๆปวดๆ เคลื่อนไหวลำบาก นั่งคุกเข่า นั่งยองๆ นั่งพับเพียบก็จะลุกขึ้นยาก การรักษาโรคกระดูกเสื่อมนั้นส่วนใหญ่คนมักจะพึ่งยาแผนปัจจุบัน อาหารเสริมต่างๆ เช่น แคลเซียมแคปซูล แต่ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ บรรเทาอาการโรคกระดูกเสื่อมได้ คือทานแบบภูมิปัญญาไทย ด้วย น้ำกระชาย น้ำมะนาว น้ำผึ้ง
น้ำกระชาย น้ำมะนาว น้ำผึ้ง เป็นสูตรธรรมชาติบำบัด ที่จะสามารถช่วยให้ร่างกายสร้างมวลกระดูกใหม่ขึ้นมา แล้วไปเสริมสร้างกระดูกที่เสื่อมอยู่ให้แน่นเหมือนเดิม
ส่วนผสม “น้ำกระชาย น้ำมะนาว น้ำผึ้ง” รักษาโรคกระดูกเสื่อม
ชุดละวัน เช้า เย็น แบ่งเอา
– กระชาย 1 ขีด
– น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
– มะนาว 2 ลูก
วิธีทำ “น้ำกระชาย น้ำมะนาว น้ำผึ้ง” รักษาโรคกระดูกเสื่อม
1. นำกระชายล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาตำ โดยใช้ครกหินอ่างศิลา หรือ ปั่นโดยใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้ละเอียดเติมน้ำสะอาดลงไป 2 แก้ว
2. นำกระชายที่ตำหรือปั่น มากรองผ้าขาวบาง จนได้หัวเชื้อ เอาแต่น้ำหัวเชื้อ
3. ใส่น้ำผึ้ง และ มะนาวผสมลงไปปรุงรสตามใจชอบ
แนะนำให้ใช้วิธีการตำโดยใช้ครกหินอ่างศิลา จะช่วยในการบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก กรมการแพทย์, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ,www.sanook.com ,วันฟ้าใส ใจสองเรา