fbpx skip to Main Content
สิว

รู้จักสิว เพื่อรักษาให้สิวหายไว

กลยุทธ์กำจัดสิว รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ชนะสิวแบบลาขาด รู้จักสิวให้ดีเพื่อหาวิธีรักษาแบบหายไว

รักษาสิว

รักษาสิว

สาเหตุของสิว

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย พันธุกรรม อารมณ์ อาหาร อากาศ รวมไปถึงยา แต่หลักๆ แล้ว สาเหตุการเกิดสิวสามารถแบ่งออกเป็นปัจจัยหลักๆ ได้ 2 ชนิด คือ

1.ปัจจัยภายใน

เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ร่างกายจะมีการสร้างฮอร์โมนเพศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้มีขนาดที่โตขึ้น และผลิตไขมันออกมามากขึ้น ทำให้ช่วงวัยรุ่นผิวหนังบริเวณใบหน้าและหนังศีรษะ จะมีความมันมากขึ้น อีกทั้งแบคทีเรียที่ชื่อว่า P.acne (Propionibacterium acnes) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีอยู่ตามธรรมชาติบนผิวหน้าของคนโดยปกติ ก็จะมีเพิ่มมากขึ้น ในบริเวณรูขุมขน บริเวณที่มีต่อมไขมัน และ P.acne จะไปกระตุ้นให้รูขุมขนบริเวณที่เป็นสิว มีการสร้างเคราติน (Keratin) ที่ผิดปกติ จึงทำให้เกิดการอุดตันที่บริเวณรูขุมขนนั้น และยังเป็นตัวกระตุ้นทำให้สิวเกิดการอักเสบที่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีปัจจัยไปกระตุ้นให้สิวกำเริบ เช่น ความเครียดที่จะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากยิ่งขึ้น

2.ปัจจัยภายนอก

สิวที่เกิดจากปัจจัยที่เกิดขึ้นภายนอกร่างกาย ได้แก่ การนำมือไปสัมผัสบริเวณใบหน้าบ่อยๆ การนวด ขัด ถูบริเวณใบหน้าแรงๆ การล้างหน้าด้วยสบู่ที่บ่อยจนเกินไป หรือการใช้ยาทาบางอย่าง ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ หรือเครื่องสำอางที่มีสารเคมีบางอย่างที่อาจจะไปกระตุ้นให้เกิดสิวได้ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอาชีพที่ต้องสัมผัสกับอากาศร้อนเหงื่อออกมาก มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเกาะบริเวณใบหน้า หรือการทำงานที่ต้องสัมผัสกับน้ำมัน ก็ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้มากขึ้น

ประเภทของสิว

ประเภทของสิว

สิวหายไว ถ้ารู้จักประเภทสิว

สิวมีหลายชนิด แต่สามารถแบ่งชนิดของสิวออกได้เป็น 2 กลุ่ม ตามลักษณะที่พบ คือ

1.กลุ่มสิวอักเสบ อาทิเช่น สิวที่เป็นตุ่มแดง สิวที่เป็นตุ่มหนอง สิวหัวช้าง และสิวที่มีการทำลายบริเวณชั้นผิวข้างใน จนเป็นโพรงคล้ายซีสต์ เป็นต้น

2.กลุ่มสิวที่ไม่อักเสบ อาทิเช่น สิวอุดตันหัวขาวเม็ดเล็กๆ สิวอุดตันหัวดำที่เกิดจากต่อมขุมขนสร้างเม็ดสี จนทำให้เกิดสีดำไม่ใช่เกิดจากสิ่งสกปรกไปอุดตัน

ถ้าจะรักษาสิวให้หาย ต้องรู้จักประเภทสิวก่อน

1.สิวหัวขาว คือ สิวอุดตันหัวปิด เป็นชนิดของสิวไม่อักเสบ ส่วนหัวขาวๆ ที่โผล่ขึ้นมาบนใบหน้าเป็นไขมัน ที่เป็นเพียงแค่ส่วนเดียวที่นูนขึ้นมาบนผิวหน้าให้เราเห็น แต่ว่ารากของสิวที่อยู่ลึกๆ ลงข้างล่างชั้นผิวหนังก็ยังมีอยู่ และไม่ควรไปบีบสิว เพราะเวลาที่เราบีบสิว ถ้าบีบไม่หมดมันก็จะได้เพียงแค่ส่วนหัวข้างบนออกมา แต่รากยังคงอยู่ หากบีบอาจเกิดการอักเสบและกลายเป็นสิวอักเสบตามมาได้

2.สิวเสี้ยน เป็นสิวที่เกิดจากรูขุมขน เสี้ยนดำๆ ที่เราเห็นคือขนที่ขึ้นมาในลักษณะ 2-3 เส้นต่อรูขุมขน เป็นการอุดตันของกระจุกเส้นขนเล็กๆ ทำให้รูขุมขนมีการขยายตัว เราจึงเห็นเป็นจุดดำๆ ขึ้นมา

3.สิวที่เป็นตุ่มแดง เกิดจากการติดเชื้อที่เรียกว่า P.acne เชื้อนี้จะไปอยู่ตรงบริเวณรูขุมขน และเกิดการสร้างกรดบางอย่าง ทำให้เกิดการระคายเคือง เมื่อเกิดระคายเคืองก็จะเป็นตุ่มแดงขึ้นมา กดเจ็บ

4.สิวตุ่มหนอง หรือสิวหัวหนอง ถือเป็นสิวอักเสบประเภทหนึ่ง ที่เกิดการอักเสบและมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันรูขุมขน ไขมันบริเวณรูขุมขนเกิดการอุดตัน และแบคทีเรียเข้าไปทำปฏิกิริยากับต่อมไขมันนั้น เกิดการระคายเคืองและเป็นหนอง โดยลักษณะของสิวจะเป็นตุ่มนูนและมีหนองอยู่ภายใน

5.สิวหัวช้าง คือ สิวอักเสบ แต่เป็นสิวอักเสบแบบชนิดรุนแรง แล้วก็กลายเป็นลักษณะซีสต์เกิดขึ้น พวกนี้จะทิ้งร่องรอยเอาไว้ในภายหลัง เช่น หลุมสิว หรือพวกรอยแดงสิวที่ค่อนข้างเยอะ สิวพวกนี้ควรได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่อย่างนั้น จะเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ นอกจากนี้สิวหัวช้างยังถือเป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง ถ้ามีการอักเสบค่อนข้างมาก จะทำให้เกิดพังผืดขึ้นมา แล้วไปดึงผิวบริเวณที่เป็น ทำให้เกิดหลุมสิวตามมา เป็นรอยหลุมสิวบนใบหน้าได้

6.สิวสเตียรอยด์ เกิดจากการใช้ยาสเตียรอยด์ที่มีความเข้มข้นค่อนข้างสูง สิวเหล่านี้จะไปเกิดในบริเวณที่มีต่อมไขมันหนาแน่น ที่ไม่ใช่บริเวณใบหน้า เช่น บริเวณลำตัว และหลัง เป็นต้น ในช่วงแรกที่เกิดสิว คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิด เมื่อเห็นว่ายิ่งเป็นตุ่มสิวก็ยิ่งจะไปหายาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ทาลงไป ก็ยิ่งทำให้เป็นมาก ทางที่ดีควรหยุดทายา เพื่อหยุดสาเหตุแล้วไปพบแพทย์

วิธีหยุดสิว ป้องกันไม่ให้สิวเกิด

1.หยุดสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว รวมทั้งหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้สิวเป็นมากขึ้น เนื่องจากหัวใจของการป้องกันรอยดำรอยแดงจากสิว คือ การลดหรือป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบของสิว และควรงดใช้เครื่องสำอางที่ไม่จำเป็นในระหว่างที่เกิดสิว

2.ควรหลีกเลี่ยงการบีบ เค้น และการแกะสิว เพราะจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ และทำให้สิวเป็นรุนแรงมากขึ้น ทำให้รอยดำหรือรอยแดงที่เป็นอยู่มีสีเข้มขึ้น และเป็นนานขึ้น

3.การใช้ยาทาหรือยารับประทาน การใช้ยาขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของสิว ซึ่งควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง

4.การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมการรักษา เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของซาลิซัยลิค แอซิด (Salicylic acid) และไฮดรอกซี่แอซิด (Hydroxy acid) ที่จะช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน การใช้ผลิตภัณฑ์หรือครีมบำรุงผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวหน้า และควรล้างหน้าทำความสะอาดให้เหมาะสม

 

สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสิวอุดตันค่อนข้างมาก ควรต้องดูไปถึงครีมที่ใช้ว่า เราเลือกครีมได้เหมาะกับผิวของเราหรือไม่ เพราะแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์บงอย่างอาจมีคนบอกว่าใช้ดี แต่ความจริงแล้ว อาจจะไม่เหมาะกับสภาพผิวของเราก็ได้ เพราะฉะนั้นเราควรทดสอบผลิตภัณฑ์เหล่านี้ด้วยตนเอง

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:  พญ.นัทยา วรวุทธินนท์     แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคผิวหนัง สถาบันโรคผิวหนัง, www.girlsfriendclub.com

Back To Top