วิธีดูแลสุขภาพกายและใจเพื่อชีวิตสดใส
ปัจจุบันสังคมไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงจากสังคมเกษตรกรรมไปสู่สังคมอุตสาหกรรม การใช้ชีวิตของคนเปลี่ยนไปทั้งในแง่การใช้แรงงานทำงานมาใช้สมองนั่งโต๊ะทำงาน การใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบทำให้เกิดความเครียด ขาดการออกกำลังกาย ขาดการรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ขาดความสนใจต่อสุขภาพตัวเอง ทำให้เกิดโรคต่างๆซึ่งเกิดจากการไม่ดูแลตัวเอง หลายคนอาจจะคิดว่าความร่ำรวยเงินทองคือ บ่อเกิดของความสุข แต่คุณจะมีความสุขกับเงินที่หามาได้อย่างไร หากสุขภาพไม่เอื้ออำนวย ต้องเข้าโรงพยาบาลไปพบหมอมากกว่าได้เดินทางไปแหล่งท่องเที่ยว สุขภาพจึงเป็นเรื่องที่เราจะต้องให้ความสำคัญทั้ง สุขภาพกายและใจ ซึ่งก็สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
-
ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากกลายเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายและหมั่นดูแลน้ำหนักตัวเองและทานอาหารให้ตรงเวลาเป็นประจำทุกวันๆ เพื่อให้สารอาหารที่ ร่างกายต้องการอย่างครบถ้วนและมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่อ้วนหรือผอมเกินไปในทุก ๆ วัน โดยมื้อเช้าถือว่าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดจึงไม่ควรที่จะงด ส่วนมื้อเย็นควรทานแต่น้อยและไม่ควรทานหลัง 6 โมง เพราะหากทานดึกเกินไปใกล้เวลานอน อาจทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
-
ดื่มน้ำให้พอเพียง
พยายามดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วหรืออย่างน้อยวันละ2 เพราะการดื่มน้ำอย่างพอเพียงมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ทั้งในเรื่องของสุขภาพและความสวยความงาม ไม่ว่าจะเป็นช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตเป็นไปอย่างปกติ ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่น ดูสดใสเปล่งปลั่ง
-
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ควรหาเวลาออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30 นาที ออกกำลังกาย เวลาเช้าตรู่และตอนเย็นเหมาะที่สุดในการออกกำลังกายมากกว่าตอนกลางวัน ซึ่งจะทำให้เหนื่อยเร็วและได้ปริมาณน้อย บางรายอาจหน้ามืดเป็นลมก็มี ทั้งนี้ควรเป็นเวลาเดียวกันทุกวัน เพราะจะส่งผลดีต่อการปรับตัวของร่างกาย นอกจากการออกกำลังกายจะช่วยให้สดชื่นผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง ช่วยให้ปอดและหัวใจทำงานได้ดี อีกทั้งยังช่วยสลายไขมัน ซึ่งจะช่วยลดความอ้วนได้อีกด้วย
-
นอนหลับพักผ่อนอย่างพอเพียง
นอนหลับพักผ่อนให้ได้วันละ 6-8 ชั่วโมง การนอนหลับพักผ่อนอย่างพอเพียงไม่เพียงแต่ร่างกายจะซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่ยังทำให้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่นแจ่มใส มีพลังในการทำงานและการใช้ชีวิต
-
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
เป็นที่รู้กันว่า การสูบบุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำให้มีความเสียงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคตับแข็ง โรคมะเร็งในหลอดอาหาร และโรคร้ายอีกมาก การเกิดมะเร็งตับ มะเร็งปอด หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสจัด หวานจัด เค็มจัด กินหวานมากเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และหลอดเลือด กินเค็มจัดเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูงเช่น อาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อน อาหารที่ไม่สุกและปนเปื้อนเชื้อโรคและสารเคมี สารบอแร็กซ์ สารเร่งสี สารกันเชื้อรา สารฟอกขาว สารฆ่าแมลง ฟอร์มาลิน ทำให้เกิดโรคได้การหลีกเลี่ยงหรือพยายามลด ละ เลิก พฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะทำให้คุณมีสุขภาพดีขึ้น เพราะหากคุณไม่รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายก็ย่อมเป็นการลดปัจจัยที่จะมาทำลายสุขภาพของคุณนั่นเอง
-
รักษาสุขภาพจิตให้ดี
จิตใจต้องพร้อม ควรทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง หากมีเรื่องไม่สบายใจ ก็ไม่ควรออกกำลังกาย เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การมีสุขภาพจิตที่ดีย่อมส่งผลให้สุขภาพร่างกายดีไปด้วย และการมีสุขภาพจิตที่ดีนั้นก็สามารถทำได้โดยการทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส มองโลกในแง่บวกอยู่เสมอ หากิจกรรมที่ชอบทำ ฝึกสมาธิปฏิบัติธรรม เป็นต้น
-
ให้เวลากับคนในครอบครัว
ความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว เป็นแหล่งที่มาอีกแห่งหนึ่งของความสุข การให้ความสนใจกับธุระการงานจนลืมที่จะแบ่งเวลาให้กับคนในครอบครัวย่อมทำให้ความสุขในครอบครัวลดน้อยลง ใส่ใจกับครอบครัวให้มากขึ้น สร้างความสมดุลให้กับชีวิตส่วนตัวและการทำงาน เท่านี้คุณก็หาความสุขได้ในทุก ๆ วันได้แล้ว
สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์และการมีสุขภาพจิตที่ดี ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณสามารถสัมผัสกับความสุขที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่มันยังเป็นแหล่งกำเนิดของความสุขด้วยตัวของมันเอง และมันคงไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากอะไรถ้าคุณจะหันมาใส่ใจกับสุขภาพเสียแต่บัดนี้ เพื่อที่คุณจะได้มีความสุขได้มากขึ้นในทุกวันที่ผ่านไป