fbpx skip to Main Content
ขัดส้นเท้าให้เรียบเนียน

วิธีแก้ส้นเท้าแตกแบบง่ายๆ

วิธีแก้ส้นเท้าแตกแบบง่ายๆ

ส้นเท้าแตก

ส้นเท้าแตก

ส้นเท้าแตก เป็นสภาวะที่หนังกำพร้าบริเวณส้นเท้า แห้งทำให้แตกได้ เพราะขาดความชุ่มชื้น  แตกลายงา ผิวหนังส้นเท้านั้นจะค่อนข้างหนา ส้นเท้านั้นจะรับน้ำหนักของเราตลอดเวลา ยิ่งถ้าเดินมากๆยิ่งมีโอกาสที่จะทำให้ส้นเท้าแตกได้ง่าย ส่วนมากจะเห็นในคนอ้วน มากว่าคนผอม ตลอดทั้งคนที่ไม่ชอบใส่รองเท้า หรือใส่รองเท้าแตะ  รวมถึงกรรมพันธุ์ก็ทำให้ส้นเท้าแตกเช่นเดียวกันค่ะ

ขัดส้นเท้าให้เรียบเนียน

                            ขัดส้นเท้าให้เรียบเนียน

ส้นเท้าแตกมีอาการอย่างไร

ในระยะแรกนั้นส้นเท้าจะมีการบวมแดง  เมื่อทั้งไว้นาน ๆ โดยขาดการดูแลรักษา จะเริ่มแตกเป็นรอยเล็ก ๆ และลึกขึ้นไปเรื่อย ๆ และอาจจะถึงขั้นแตกเป็นรอยเลือด ทำให้แสบและทรมานมากในเวลาเดิน  ดังนั้นควรรีบรักษาตั้งแต่เริ่มต้น อย่าปล่อยทั้งไว้นาน เพราะอาการจะกำเริบหนักขึ้น ไม่ควรปล่อยให้เป็นมากหรือทิ้งไว้เป็นเวลานาน

ส้นเท้าแตก

ส้นเท้าแตก

สาเหตุของอาการส้นเท้าแตก

ส่วนมากมาจากการใส่รองเท้าแตะ  หรือรองเท้าลักษณะแบบเปิดส้นเท้า จะทำให้เท้าไม่อับชื้น ยิ่งถ้าโดนแสงแดดมากๆ โอกาสที่จะทำให้ส้นเท้าแตกมีเปอร์เซ็นต์เยอะ  คนที่ชอบเดินไปมาด้วยเท้าเปล่า ซึ่งด้วยความแข็งของพื้นและประกอบกับความเย็นที่สัมผัส จึงเป็นเหตุให้ผิวหนังบริเวณส้นเท้าแห้ง ยิ่งถ้าเป็นคนอ้วนที่มีน้ำหนัก ตัวเยอะด้วยแล้วก็จะทำให้ส้นเท้า ได้รับแรงกระแทกมากขึ้น  อีกอย่างหนึ่งการที่ใส่รองเท้าไม่ได้มาตรฐาน ก็เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้บริเวณส้นเท้าเกิดการหนาตัว และทำให้แตกได้ง่ายขึ้น

วิธีการรักษาส้นเท้าแตก

  1. เมื่อมีอาการส้นเท้าแตก ให้ใส่รองเท้าปิดส้น
  2. สวมถุงเท้าก่อนนอนทุกคืน เพื่อเป็นการรักษาความชุ่มชื้น ของส้นเท้า
  3. ใช้เปลือกกล้วยหอม มาถูบริเวณส้นเท้าที่แตก นาน 10 นาที กรดที่อยู่ในกล้วยจะช่วยสมานผิวที่แตกและลอกผิวที่แตกออก เป็นการสมานผิวไปในตัว  ให้ทำแบบนี้สัปดาห์ละ  2 -3 ครั้ง
  4. แช่เท้าในน้ำอุ่นก่อนนอนทุกๆ คืน ประมาณ 15 นาที 2-3 ครั้ง/สัปดาห์  แล้วให้ถูส้นเท้าเบา เพื่อให้เนื้อที่แตกออกหลุดออกไป จากนั้นเช็ดให้แห้ง ทาครีม ให้ชุ่มชื้น
  5. แช่เท้าในน้ำมะนาว ประมาณวันละ 15 นาที โดยอาจจะใช้เป็นน้ำมะนาวแบบขวดที่คั้นมาแล้วก็ได้
  6. แช่เท้าในน้ำส้มสายชู ผสมน้ำยาบ้วนปาก และน้ำอุ่น ประมาณ 15 นาที ก็ช่วยได้เช่นกัน
  7. ให้ทาครีมเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของส้นเท้าที่แตก ให้เป็นประจำทุกวันทุกคืน และให้ทาบ่อยๆ เท่าที่เราต้องการ
  8. หากทำทุกวิธีแล้วแต่ยังไม่หาย และยังมีรอยเลือดแตกอักเสบอยู่ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อดำเนินการรักษาต่อไป
ขัดส้นเท้าให้เรียบเนียน

ขัดส้นเท้าให้เรียบเนียน

การป้องกันส้นเท้าแตก

  1. ให้ใส่ถุงเท้าในเวลานอนเป็นประจำทุกคืน
  2. ให้เลือกใส่รองเท้าที่เหมาะสมกับรูปร่างเท้า ไม่คับไม่หลวมจนเกินไป เลี่ยงการสวมใส่รองเท้าแตะ เพราะไม่ถนอมผิวบริเวณเท้า และควรสลับผลัดเปลี่ยน ไม่ควรสวมรองเท้าคู่เดิมซ้ำ ๆ ทุกวัน
  3. ควรทาครีมหรือน้ำมันมะกอก ที่ส้นเท้าเป็นประจำทุกวัน ทุกคืน เพื่อเป็นการป้องส้นเท้าแตก
  4. ขณะที่อยู่ในบ้านหรือในที่ทำงาน ควรใส่รองเท้าขนสัตว์ที่นุ่ม ๆมาสวมใส่ เพื่อเป็นการลดแรงกระแทกของส้นเท้า และรักษาความชุ่มชื้น เป็นการป้องกันความเย็นที่จะทำให้ส้นเท้าแตกได้
  5. สำหรับคนที่อ้วนให้พยายามลดน้ำหนัก ส้นเท้าจะไม่ต้องรับน้ำหนักมากจนเกินไป
  6. อาบน้ำอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่อาบน้ำร้อนจนเกินไป และไม่แช่เท้าอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน หากต้องอยู่ในสภาพอากาศแห้ง ๆ หรือหนาวเย็น อาจเลี่ยงการอาบน้ำ ไม่อาบน้ำทุกวัน หรืออาบไม่เกินวันละครั้ง และไม่อาบน้ำนาน
  7. เลือกสบู่ที่ดีต่อผิว ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ไม่ทำให้ผิวแห้ง และไม่ขัดเท้า ควรเช็ดล้างทำความสะอาดเท้า และทาครีมบำรุงผิวที่เพิ่มความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
  8. หมั่นสำรวจตรวจเช็คร่องรอย รอยแตก บาดแผล อาการบวม หรือความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณเท้า แล้วหาทางรักษาอย่างถูกวิธี หากไม่ทราบวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง ควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเสมอ
ขัดส้นเท้าให้เรียบเนียน

ขัดส้นเท้าให้เรียบเนียน

 

            การที่จะรักษาไม่ให้ส้นเท้าแตกเป็นเรื่องที่ง่าย สุขภาพร่างกายของเรา เราจะต้องหมั่นดูแลรักษา
ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะส่วนไหนก็ตาม ควรหมั่นดูแลอยู่เสมอค่ะ 

ขอขอบคุณบทความจาก : www.เกร็ดความรู้.com 

Back To Top