วิธีแก้ส้นเท้าแตกแบบง่ายๆ
วิธีแก้ส้นเท้าแตกแบบง่ายๆ
ส้นเท้าแตก เป็นสภาวะที่หนังกำพร้าบริเวณส้ นเท้า แห้งทำให้แตกได้ เพราะขาดความชุ่มชื้น แตกลายงา ผิวหนังส้นเท้านั้นจะค่อนข้ างหนา ส้นเท้านั้นจะรับน้ำหนั กของเราตลอดเวลา ยิ่งถ้าเดินมากๆยิ่งมีโอกาสที่ จะทำให้ส้นเท้าแตกได้ง่าย ส่วนมากจะเห็นในคนอ้วน มากว่าคนผอม ตลอดทั้งคนที่ไม่ชอบใส่รองเท้า หรือใส่รองเท้าแตะ รวมถึงกรรมพันธุ์ก็ทำให้ส้นเท้ าแตกเช่นเดียวกันค่ะ
ส้นเท้าแตกมีอาการอย่างไร
ในระยะแรกนั้นส้นเท้าจะมี การบวมแดง เมื่อทั้งไว้นาน ๆ โดยขาดการดูแลรักษา จะเริ่มแตกเป็นรอยเล็ก ๆ และลึกขึ้นไปเรื่อย ๆ และอาจจะถึงขั้นแตกเป็นรอยเลือด ทำให้แสบและทรมานมากในเวลาเดิน ดังนั้นควรรีบรักษาตั้งแต่เริ่ มต้น อย่าปล่อยทั้งไว้นาน เพราะอาการจะกำเริบหนักขึ้น ไม่ควรปล่อยให้เป็นมากหรือทิ้ งไว้เป็นเวลานาน
สาเหตุของอาการส้นเท้าแตก
ส่วนมากมาจากการใส่รองเท้าแตะ หรือรองเท้าลักษณะแบบเปิดส้นเท้ า จะทำให้เท้าไม่อับชื้น ยิ่งถ้าโดนแสงแดดมากๆ โอกาสที่จะทำให้ส้นเท้าแตกมี เปอร์เซ็นต์เยอะ คนที่ชอบเดินไปมาด้วยเท้าเปล่า ซึ่งด้วยความแข็งของพื้ นและประกอบกับความเย็นที่สัมผัส จึงเป็นเหตุให้ผิวหนังบริเวณส้ นเท้าแห้ง ยิ่งถ้าเป็นคนอ้วนที่มีน้ำหนัก ตัวเยอะด้วยแล้วก็จะทำให้ส้นเท้ า ได้รับแรงกระแทกมากขึ้น อีกอย่างหนึ่งการที่ใส่รองเท้ าไม่ได้มาตรฐาน ก็เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้บริเวณส้ นเท้าเกิดการหนาตัว และทำให้แตกได้ง่ายขึ้น
วิธีการรักษาส้นเท้าแตก
- เมื่อมีอาการส้นเท้าแตก ให้ใส่รองเท้าปิดส้น
- สวมถุงเท้าก่อนนอนทุกคืน เพื่อเป็นการรักษาความชุ่มชื้น ของส้นเท้า
- ใช้เปลือกกล้วยหอม มาถูบริเวณส้นเท้าที่แตก นาน 10 นาที กรดที่อยู่ในกล้วยจะช่วยสมานผิ
วที่แตกและลอกผิวที่แตกออก เป็นการสมานผิวไปในตัว ให้ทำแบบนี้สัปดาห์ละ 2 -3 ครั้ง - แช่เท้าในน้ำอุ่นก่อนนอนทุกๆ คืน ประมาณ 15 นาที 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ แล้วให้ถูส้นเท้าเบา เพื่อให้เนื้อที่แตกออกหลุ
ดออกไป จากนั้นเช็ดให้แห้ง ทาครีม ให้ชุ่มชื้น - แช่เท้าในน้ำมะนาว ประมาณวันละ 15 นาที โดยอาจจะใช้เป็นน้ำ
มะนาวแบบขวดที่คั้นมาแล้วก็ได้ - แช่เท้าในน้ำส้มสายชู ผสมน้ำยาบ้วนปาก และน้ำอุ่น ประมาณ 15 นาที ก็ช่วยได้เช่นกัน
- ให้ทาครีมเพื่อรักษาความชุ่มชื้
นของส้นเท้าที่แตก ให้เป็นประจำทุกวันทุกคืน และให้ทาบ่อยๆ เท่าที่เราต้องการ - หากทำทุกวิธีแล้วแต่ยังไม่หาย และยังมีรอยเลือดแตกอักเสบอยู่ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อดำเนิ
นการรักษาต่อไป
การป้องกันส้นเท้าแตก
- ให้ใส่ถุงเท้าในเวลานอนเป็
นประจำทุกคืน - ให้เลือกใส่รองเท้าที่เหมาะสมกั
บรูปร่างเท้า ไม่คับไม่หลวมจนเกินไป เลี่ยงการสวมใส่รองเท้าแตะ เพราะไม่ถนอมผิวบริเวณเท้า และควรสลับผลัดเปลี่ยน ไม่ควรสวมรองเท้าคู่เดิมซ้ำ ๆ ทุกวัน - ควรทาครีมหรือน้ำมันมะกอก ที่ส้นเท้าเป็นประจำทุกวัน ทุกคืน เพื่อเป็นการป้องส้นเท้าแตก
- ขณะที่อยู่ในบ้านหรือในที่ทำงาน ควรใส่รองเท้าขนสัตว์ที่นุ่ม ๆมาสวมใส่ เพื่อเป็นการลดแรงกระแทกของส้
นเท้า และรักษาความชุ่มชื้น เป็นการป้องกันความเย็นที่ จะทำให้ส้นเท้าแตกได้ - สำหรับคนที่อ้วนให้พยายามลดน้ำ
หนัก ส้นเท้าจะไม่ต้องรับน้ำหนั กมากจนเกินไป - อาบน้ำอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่อาบน้ำร้อนจนเกินไป และไม่แช่เท้าอยู่ในน้ำเป็
นเวลานาน หากต้องอยู่ในสภาพอากาศแห้ง ๆ หรือหนาวเย็น อาจเลี่ยงการอาบน้ำ ไม่อาบน้ำทุกวัน หรืออาบไม่เกินวันละครั้ง และไม่อาบน้ำนาน - เลือกสบู่ที่ดีต่อผิว ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ไม่ทำให้ผิวแห้ง และไม่ขัดเท้า ควรเช็ดล้างทำความสะอาดเท้า และทาครีมบำรุงผิวที่เพิ่
มความชุ่มชื้นอยู่เสมอ - หมั่นสำรวจตรวจเช็คร่องรอย รอยแตก บาดแผล อาการบวม หรือความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริ
เวณเท้า แล้วหาทางรักษาอย่างถูกวิธี หากไม่ทราบวิธีปฏิบัติที่ถูกต้ อง ควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ ยวชาญเสมอ
การที่จะรักษาไม่ให้ส้นเท้ าแตกเป็นเรื่องที่ง่าย สุขภาพร่างกายของเรา เราจะต้องหมั่นดูแลรักษา
ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะส่วนไหนก็ตาม ควรหมั่นดูแลอยู่เสมอค่ะ
ขอขอบคุณบทความจาก : www.เกร็ดความรู้.com