สัญญาณเตือน…ของผิวขาดน้ำ
ในปัจจุบันมักพบว่าหลายๆคน ประสบปัญหาในเรื่องของผิวหนังขาดน้ำ สาเหตุนั้นก็มาจากการสูญเสียน้ำออกจากผิวหนัง แต่ก่อนอื่นมารู้จักโครงสร้างของผิวหนังให้ชัดก่อนดีกว่า ซึ่งผิวหนังของเรานั้นมีส่วนประกอบดังต่อไปนี้
1. เซลล์ชั้นนอกสุด หรือที่เรียกว่าชั้นขี้ไคล เป็นเซลล์ที่ไม่มีชีวิต มีไขมันหุ้มภายนอก ถัดไปเป็นชั้นโปรตีนเป็นปลอกหุ้มเซลล์ผิวหนังชั้นนี้อีกชั้น และมีโปรตีนที่เรียกว่า เคอราติน เป็นส่วนประกอบภายในเซลล์ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้น้ำทะลุผ่านเซลล์ผิวหนังออกสู่ภายนอก
2.ชั้นไขมันแทรกอยู่ระหว่างเซลล์ผิวหนังชั้นขี้ไคล ทำหน้าที่ปิดกั้นไม่ให้น้ำในร่างกายซึมผ่านช่องระหว่างเซลล์ผิวหนังออกสู่ภายนอก
3. ไขมันจากต่อมไขมัน ที่หลั่งสารไขมันออกตามรูขุมขน สารไขมันจะแผ่ออกเคลือบผิวของชั้นหนังกำพร้า ป้องกันไม่ให้น้ำซึมผ่านเซลล์และช่องว่างระหว่างเซลล์ออกสู่ภายนอก
สัญญาณเตือนของผิวขาดน้ำ
อาการหรือสัญญาณเตือนที่เป็นสาเหตุว่าเริ่มมีอาการผิวหนังขาดน้ำเกิดขึ้น มีดังต่อไปนี้
1. ดื่มน้ำน้อยเกินไป
2. อยู่ในห้องแอร์เป็นส่วนใหญ่
3. อาบน้ำอุ่นเป็นประจำ
4. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำ (ซึ่งมักพบใน ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้ผิวขาว)
5. หลังจากล้างหน้าแล้วไม่รีบทา moisturizer ทันที
6. ไม่ค่อยใส่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นได้หรือเปล่า
7. ทาครีมบำรุงแล้วยังรูสึกว่าผิวสาก แห้งกร้าน (อาจมีขุยหรือไม่มีขุย) แต่ก็ยังมีน้ำมันออกมาเคลือบผิว
8. ไม่ค่อยชอบทาครีมกันแดดหรือชอบลืมทาครีมกันแดด
9. ใช้ผลิตภณฑ์ล้างหน้าที่มีฤทธิ์ในการชะล้างรุนแรง
10. อายุมากกว่า 25 ปีขึ่นไป
วิธีสังเกตลักษณะผิวขาดน้ำ
วิธีการสังเกตผิวหนังของตัวเองอย่างง่าย ๆ ว่ามีอาการขาดน้ำหรือไม่นั้น สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
1. สังเกตผิวหนังภายนอกเหมือนมีน้ำมันออกมาเคลือบ
2. เมื่อดูผิวหนังใกล้ ๆ จะเห็นริ้ว ๆ หรือรู้สึกแห้งกร้าน
3. สัมผัสผิวดูแล้วจะรู้สึกว่าผิวไม่นุ่มเนียน ไม่เรียบ ถ้าเป็นมากอาจรู้สึกว่าผิวสาก ๆ
4. อาการจะเป็นมากประมาณสาย ๆ หรือช่วงบ่าย ๆ ของวัน พอซับมันแล้วเติมแป้งมักจะไม่เรียบเนียนเหมือนแต่งตอนเช้า
ผิวขาดน้ำมักทำให้ผิวมัน เนื่องจากเมื่อผิวขาดน้ำก็เสมือนว่าผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวจะพยายามผลิตน้ำมันออกมาเพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่เสียไป (ซึ่งเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ) จึงทำให้ผิวมีความมันมากกว่าปกติ ทั้งๆที่อาการขาดน้ำยังไม่ได้รับการแก้ไข หากปล่อยไว้นานจะทำให้ผิวหนังสูญเสียการทำงาน ขาดความกระชับ ยืดหยุ่น และนำไปสู่ผิวอ่อนแอในที่สุด
ขั้นตอนปรนนิบัติผิว…ป้องกันผิวขาดน้ำ
การรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังเพื่อไม่ให้ผิวขาดน้ำ เป็นคุณสมบัติที่สำคัญของเซลล์ผิวหนังชั้นนอกหรือเซลล์ชั้นขี้ไคล ช่วยทำให้ผิวหนังสามารถเก็บรักษาน้ำไว้ได้ ความชุ่มชื้นของผิวหนังที่พอเหมาะ คือ สภาวะที่ผิวหนังสามารถรักษาระดับน้ำให้คงอยู่ในเซลล์ผิวหนัง และระหว่างเซลล์ผิวหนังกำพร้าได้อย่างสมดุล ผิวหนังจะชุ่มชื้น เรียบ นุ่มเนียน เต่งตึงและไม่เป็นขุย และนอกจากนี้ยังช่วยป้องกันเชื้อโรค และสารพิษจากธรรมชาติและที่มนุษย์ผลิตขึ้นเอง ยังมีคุณสมบัติในการรักษาความชุ่มชื้น
หลักในการปรนนิบัติผิว เพื่อดูแลป้องกันไม่ให้ผิวขาดน้ำ มีดังนี้
1. หลีกเลี่ยงสภาวะแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อการเกิดผิวแห้ง เช่น การอยู่ในห้องแอร์นานๆ ความชื้นในบรรยากาศต่ำ การสูญเสียน้ำออกจากผิวหนังเพิ่มสูงขึ้น
2. เมื่ออายุมากขึ้นต่อมไขมันและเซลล์ผิวหนังจะสร้างสารไขมันลดลง ทำให้เกิดลักษณะผิวแห้ง จึงจำเป็นต้องใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เคลือบผิว
3. การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และทาครีมกันแดดเป็นประจำสม่ำเสมอ
4. ดื่มน้ำในปริมาณที่ร่างกายต้องการ และทานอาหารที่มีประโยชน์
5. รักษาความสะอาดของร่างกาย เเละเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับสภาพผิว
6. พักผ่อนให้เพียงพอ
7. หลีกเลี่ยงมลภาวะ เช่น แสงแดด
อย่าลืมดูแลผิวของเราให้ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่ม น่าสัมผัสกันนะคะ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ผิวขาดน้ำ ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อสุขภาพผิว สุขภาพกายที่ดีกันค่ะ