สาเหตุของริมฝีปากคล้ำและวิธีแก้ไข
สาเหตุที่ทำให้ริมฝีปากดำคล้ำกัน
- บุหรี่
- การดูดริมฝีปาก
- เครื่องดื่มผสมกาเฟอีน
- แอลกอฮอลลล์
- น้ำดื่มผสมคลอรีน
- การโดนแดดเผาหรือความชื้นในอากาศ
- เครื่องสำอางชั้นเลว
- การบริโภคอาหารที่เลวร้าย
- ภูมิแพ้
- ฮอร์โมนไม่สมดุล
- ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์เกินขนาด
- การขาดวิตามิน
- ความเครียด
- การทำคีโม
- การใช้ชีวิตที่ไม่ได้เรื่อง
- ฯลฯ
จะเห็นได้ว่าตัวแปรในการทำให้ริมฝีปากของเราดำคล้ำอย่างน่ารังเกียจมีได้เยอะมาก แต่ทั้งหมดต่างมีสาเหตุร่วมกันนั่นคือ “การไม่เอาใจใส่ตัวเอง” หรือ “ขี้เกียจ” นั่นเอง ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มต้นขั้นตอนในการฟื้นฟูตัวเองด้วยตัวเองของเรา สิ่งที่เราต้องทำอันดับแรกคือการ ปรับปรุงนิสัยและชีวิตของตัวเองเสียก่อนที่จะเริ่มต้นใช้วิธีการดูแลที่ เป็นธรรมชาติของเราด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติของเราอย่าง มะนาว เป็นต้น ในฐานะที่เป็นตัวฟอกขาวในธรรมชาติ มะนาวจะช่วยทำให้ผิวของเราขาวขึ้น โดยน้ำมะนาวสดๆ จะมีกรดที่ช่วยในการลอกหนังกำพร้าของเราออกไป ซึ่งจะทำให้ริมฝีปากของเรา ดูเนียนนุ่มและมีน้ำนวลมากขึ้น โดยเราสามารถที่จะนำ “ตัวช่วยอื่น” มาผสมกับน้ำมะนาวได้อย่างเช่นว่า
- มะนาวกับน้ำตาล: ให้หั่นมะนาวออกเป็นแว่นๆ แล้วเหยาะน้ำตาลลงไปแต่ละแว่นก่อนที่จะนำ แว่นมะนาวมาชะโลมริมฝีปากทุกๆวันจนกว่าจะเห็นผล
- น้ำมะนาว,กลีเซอรีนและน้ำผึ้ง: ผสมส่วนผสมทั้งหมดอย่างละครึ่งช้อนชาเข้าด้วยกันในชามที่เตรียมไว้ ก่อนที่จะนำมันไปทาที่ริมฝีปากก่อนเข้านอน
- น้ำมะนาวกับน้ำมันแอลมอนด์: ให้นำส่วนผสมมาผสมกันในชามก่อนที่จะทาบริเวณริมฝีปากแล้วคลึงไปคลึงมา 2-3นาที แล้วทิ้งมันเอาไว้ให้แห้งสัก 30-45 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
- น้ำมะนาวกับน้ำผึ้ง: ให้เตรียมน้ำมะนาว 4ช้อนชา น้ำผึ้ง2ช้อนชามาผสมกันในชามแล้วนวดทั่วริมฝีปาก 5 นาทีก่อนที่จะปล่อยให้มันแห้งเอง
ริมฝีปากดําทาลิปสติกสีอะไรดี?
- สีแดง
- สีชมพู
- สีส้ม
- สีนู้ด
พยายามเลือกสีที่กลบสีปากได้มิด หรืออาจใช้คอนซีลเลอร์หรือรองพื้นช่วย จะทำให้สีลิปสติกดูชัดขึ้น
นี่คือวิธีการต่อสู้ความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติของตัวเราเอง ด้วยธรรมชาติที่บริสุทธิ์ พึงจำเอาไว้ให้ดี สำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามที่แท้จริงและเป็นธรรมชาติที่สุดแล้ว เราไม่ต้องการมีดหมอหรืออาหารเสริมชั้นเลวจากอินเตอร์เน็ตเพื่อทำให้เราสวย หากแต่ตัวเราเองต่างหากที่จะเป็นผู้กำหนดความเป็นไปของตัวเราเอง
ขอขอบคุณบทความจาก : http://www.เกร็ดความรู้.com