หมดปัญหาหน้าบาน หน้าใหญ่ ด้วย 5 วิธีเริ่ดๆ
สาวๆคนไหนที่มีปัญหาหน้าบาน หน้าใหญ่ กรามใหญ่นะคะ บทความนี้เราจะมาดูวิธีลดกรามปรับรูปหน้าเรียววีเซฟกันค่ะ เพราะเรากำลังเจอปัญหาเดียวกัน ดูกระจกทีไรก็ท้อใจทุกที อยากจะถ่ายรูปสวย ๆ ก็หามุมยากหน่อย เจอแบบนี้แล้วอย่าเพิ่งท้อใจก่อนนะคะ เพราะวันนี้เราจะพาสาว ๆ ทุกคนไปพบกับวิธีจัดการกับปัญหาหน้า บานหน้าใหญ่ กรามใหญ่ได้อย่างไร มีวิธีไหนบ้างมาดูกันเลยค่ะ
1.โบท็อกซ์ หรือ Botulinum Toxin A เป็นโปรตีนบริสุทธิ์สกัดจากแบคทีเรียที่มีประโยชน์ชนิดหนึ่ง เมื่อฉีดเข้าไป ทำให้เซลล์ประสาท ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ โดยพื้นฐานสารสำคัญของโบท็อกซ์ที่เราฉีดเข้าไปจะทำหน้าที่คลายกล้ามเนื้อและหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อแบบชั่วคราว เมื่อนำคุณสมบัติตรงนี้มาไปใช้กับกล้ามเนื้อกรอบหน้า และกราม ก็จะทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นยุบและคลายตัวลง รูปหน้าของเราก็จะเล็กเข้ารูปเป็นวีเชฟ สวยจบแถมเจ็บน้อยอีกด้วยนะคะ โดยผลลัพธ์ดังกล่าวสามารถอยู่นานเป็นเดือนๆ และเทนคนิคการฉีดโบท็อกซ์ลดขนาดกล้ามเนื้อกรามก็สามารถทำซ้ำได้โดยไม่เป็นอันตรายด้วยค่ะหากทำในระยะเวลาที่ไม่ถี่จนเกินไป หรือในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป
การฉีดโบท็อกซ์เหมาะกับใคร : วิธีนี้จัดไปเลยค่ะ สำหรับคนที่กรามใหญ่ เนื้อกรามแน่น ๆ ฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามเนื้อกรามเข้าไป กรามยุบลงแน่นอนค่ะ
2.การร้อยไหม การร้อยไหมเป็นอีกวิธีนึงที่คนไข้ส่วนใหญ่นิยมทำมาก เป็นวิธีการศัลยกรรมแบบหนึ่ง เป็นการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และมีผลข้างเคียงน้อย ไหมที่ใช้สำหรับทำใบหน้าให้เรียวสวย ส่วนใหญ่เป็น “ไหมละลาย” ซึ่งเป็นการยกกระชับ เก็บเหนียง ปรับรูปหน้าทำให้ใบหน้าเรียว (V-Shape) เมื่อนำเส้นไหมเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง เส้นไหมจะเกี่ยวชั้นใต้ผิวหนังและดึงขึ้น เพื่อล็อกเนื้อเยื่อ เส้นไหมเส้นยาว ๆ จะแตกตัวออกมาเป็นเส้นเล็กเเละไหมจะพันรอบแนวเส้นไหม ซึ่งทำให้ผิวมีการดึงรั้ง จะทำให้ผิวจึงเต่งตึงเรียบกระชับ กระตุ้นการสร้างคอนลาเจน และปรับรูปให้หน้าเรียวขึ้น ช่วยทำให้เลือดไหลเวียน หลังทำจะรู้สึกเลยว่าหน้าเรียวขึ้น กระชับขึ้นใช้เวลาพักฟื้นน้อย (อาการบวมมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการฟื้นฟูหลังการร้อยไหมของแต่ละบุคคล บางท่านบวมน้อย บางท่านบวมเยอะ บางท่านไม่บวมเลยก็มีค่ะ)
การร้อยไหมเหมาะกับใคร : อยากหน้าเรียว V Shape เหมือนสาวเกาหลี แนะนำวิธีนี้เลยค่ะ เห็นผลได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว แถมอยู่ได้นานเป็นปีช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อย ซึ่งการร้อยไหม นอกจากจะเห็นผลทันที หลังทำแล้ว ไหมจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งจะทำให้ผิวเกิดการกระชับตึงขึ้นด้วยค่ะ
3.HIFU หรือ High Intensity Focus Ultrasound คือการปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวน์ความเข้มข้นสูงสู่ชั้นผิว คลื่นนี้จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ข้อดีคือเป็นวิธีที่ไม่เจ็บตัว ไม่มีอาการบวมช้ำ และไม่มีผลข้างเคียงค่ะ HIFU เป็นเทคโนโลยียกกระชับเดียวที่
HIFUเหมาะกับใคร : สำหรับสาว ๆ คนไหนที่กลัวเข็ม กลัวเลือด กลัวเจ็บแนะนำวิธีนี้ค่ะ เพราะเป็นแค่เพียงการปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวน์เข้าสู่ผิวเท่านั้น ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องเจ็บตัว รอผลลัพธ์ 2-3 สัปดาห์ เพื่อลดความหย่อนคล้อยของใบหน้า ผิวหนังกระชับอ่อนเยาว์ ลดริ้วรอย กระชับเหนียงและคอ เพิ่มความคมชัดบริเวณแนวสันกราม
4.ผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม (Buccal fat pad removal) :การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้มเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก คล้ายๆการทำฟัน ไม่เจ็บมากผ่าตัดเพื่อลดขนาดแก้มโดยการนำไขมันบริเวณกระพุ้งแก้มออก เพื่อปรับรูปหน้า ทำให้ใบหน้าเรียวเล็กลง นอกจากการผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้มจะช่วยทำให้หน้าเรียวมากขึ้นแล้ว มีการศึกษาวิจัยจากต่างประเทศพบว่าการผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้มจะช่วยทำให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อยจากไขมันกระพุ้งแก้มที่ห้อยลงมาด้านล่าง กลับตึงขึ้น ช่วยแก้ไขปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย หรือแก้มห้อยให้ตึงกระชับมากขึ้นอีกด้วยนะคะ
การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้มเหมาะกับใคร : เหมาะกับทุกคนที่มีปัญหาแก้มป่องจากกรรมพันธุ์ สาวแก้มป่อง สาวที่มีใบหน้าดูกลม เพราะถึงแม้น้ำหนักตัวจะลดลง แก้มก็ยังป่องเหมือนเดิม เมื่อผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าจะดูเรียวเล็กอย่างถาวร แต่!!! อย่าชะล่าใจไปเชียว ถึงสาวๆได้ทำการตัดไขมันกระพุ้งแก้มออกไปแล้วเเต่ไม่ยอมควบคุมน้ำหนัก ไม่ยอมควบคุมอาหาร กินจนเกินพอดี จนสาวๆมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเป็น 10 กิโล+ ไขมันก็จะกลับมาสะสมได้อีกนะคะ
5.ผ่าตัด RF ลดกล้ามเนื้อกราม คือ การผ่าตัดRF ลดขนาดกล้ามเนื้อกรามให้เล็กลงค่ะ วิธีนี้เป็นวิธีใหม่ของการลดกล้ามเนื้อกรามให้เล็กลงแบบถาวร ปัญหาขนาดกล้ามเนื้อกรามใหญ่ เป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้รูปหน้าบานออกด้านข้าง วิธีการรักษาภาวะกล้ามเนื้อกรามใหญ่ (Masster muscle hypertrophy) โดยทั่วไปนั้นรักษาด้วยการฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum toxin) ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยากและปลอดภัย แต่อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ก็ต้องกลับมาฉีดซ้ำๆเปลืองทั้งเงิน เปลืองทั้งเวลา ยิ่งไปกว่านั้น ฉีดบ่อยๆก็ทำให้เกิดการดื้อยาได้ค่ะ
วิธีการนี้เป็นการใช้คลื่นความถี่วิทยุเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนที่ 50-90 องศาเซลเซียส ทำให้เนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อเกิดการหดตัว และเล็กลงในที่สุด วิธีการใช้คลื่นความถี่วิทยุเปลี่ยนเป็นความร้อนนี้เริ่มใช้ในการรักษาโรคภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับ (OSA) โดย Powell และคณะ ซึ่งผู้ป่วยมักมาด้วยอาการนอนกรน จากการศึกษาพบว่าการรักษาด้วยวิธีนี้ได้ผลดีและผลข้างเคียงน้อย โดยผลการรักษาจะเริ่มเปลี่ยนแปลงจนเห็นได้ชัดใช้เวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์ โดยยังไม่พบภาวะแทรกซ้อนใด ๆค่ะ ซึ่งตอนผ่าตัดก็ชิลๆ เจ็บน้อย ไม่มีแผลเป็นภายนอกค่ะ
การผ่าตัด RF ลดกล้ามเนื้อกรามเหมาะกับใคร: เหมาะกับสาวๆที่มีขนาดกล้ามเนื้อกรามใหญ่เคี้ยวข้าวเหนียวเยอะๆ สาวๆที่ดื้อยาจากการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ไม่อยากฉีดโบท็อกซ์ซ้ำๆ สาวๆที่ต้องการลดขนาดกรามโดยไม่ต้องการฉีดโบท็อกซ์เข้าสู่ร่างกาย และสาวๆที่ชอบนอนกัดฟัน
ข้อดีของการลดกรามถาวรด้วยการใช้คลื่นความถี่วิทยุ ไม่ต้องฉีดสารใด ๆ เข้าสู่ร่างกาย เป็นการผ่าตัดเล็ก ไม่มีแผลเป็นภายนอก ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องรัดหน้าหลังทำ เจ็บน้อยด้วยค่ะ ผ่าตัดเสร็จสามารถเดินออกไปช็อปปิ้ง เดินเล่น ไปทำงานได้ตามปกติค่ะ ดีสุดๆ ขนาดนี้อย่ารอช้าค่ะเดี๋ยวจะสวยปัง!! ไม่ทันเพื่อนนะคะ
สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้บริการคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ถ้าไม่รู้จะปรึกษาใคร HERS CLINIC ของเราพร้อมจะให้คำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับปัญหาใบหน้าทุกรูปแบบ เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่สวยที่สุด ดูดี และมั่นใจมากขึ้นในการใช้ชีวิตค่ะ นัดปรึกษาก่อนได้ วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 10.00-18.00 น. โทร:099-189-0189