fbpx skip to Main Content
สมองเสื่อม

อาการเตือน…สู่ภาวะสมองเสื่อม

ภาวะสมองเสื่อม คือ ความถดถอยในการทำงานของสมอง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการสูญเสียเซลล์สมอง โดยเริ่มจากส่วนใดส่วนหนึ่งจนลุกลามไปยังสมองส่วนอื่น ๆ ความเสื่อมถอยจะดำเนินไปอย่างช้า ๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป บางครั้งอาจใช้เวลานับ 10 ปี กว่าที่ความผิดปกติจะปรากฏชัดเจนจนสังเกตเห็นได้

“10 อาการเตือน” สู่ภาวะสมองเสื่อม

  1. จำไม่ได้แม้แต่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น เช่น ลืมว่ากินอะไรไป

  2. ทำกิจวัตรประจำวันที่คุ้นเคยไม่ได้ เช่น ลืมวิธีแต่งตัว

  3. มีปัญหาในการใช้ภาษา เช่น ลืมคำศัพท์ง่าย ๆ พูดคำผิด สื่อสารกับผู้อื่นลำบาก

  4. สับสนวันเวลาและสถานที่ เช่น หลงวันเวลา หลงทาง กลับบ้านตัวเองไม่ถูก

  5. ตัดสินใจไม่เหมาะสม เช่น เปิดพัดลมแรงทั้งที่อากาศเย็นมาก

  6. มีปัญหาความคิดรวบยอด เช่น คำนวณตัวเลขง่าย ๆ ไม่ได้

  7. เก็บสิ่งของผิดที่ เช่น เก็บอาหารไว้ในตู้เสื้อผ้า

  8. อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย เช่น เปลี่ยนจากสงบเป็นร้องไห้และโมโหภายในไม่กี่นาที

  9. บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง เช่น กลายเป็นคนหวาดระแวง

  10. ขาดการริเริ่มสร้างสรรค์ เช่น นั่งหรือนอนทั้งวันไม่อยากออกไปเจอผู้คน

 

“3 กิจกรรม” ทำเป็นประจำช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้

1. ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายแบบแอโรบิคช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้ เช่น การวิ่ง การว่ายน้ำ เดินเร็ว ปั่นจักรยาน หรือเต้นแอโรบิค วันละ 30 นาที อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 วัน

2. รักษาสุขภาพอยู่เสมอ

  •  ควรเลือกรับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ปลา
  • ควรมีกิจกรรมทางกาย เช่น เดินแทนการนั่งรถ ทำงานบ้าน ทำงานอดิเรกที่ชอบ

  • ควรมีกิจกรรมทางสังคม เช่น ออกไปพบปะเพื่อนฝูง พูดคุยกับเพื่อนบ้าน

  • ควรตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

  • ไม่ควรสูบบุหรี่และดื่มสุรา

  • ไม่ควรทำกิจกรรมที่เสี่ยงกับการบาดเจ็บทางศีรษะ

  • ไม่ควรปล่อยให้มีน้ำหนักตัวมากจนอ้วน

3. บริหารสมองบ่อย ๆ

  • ท่าโป่งก้อย ชูมือขวาชูนิ้วโป้ง มือซ้ายชูนิ้วก้อย เมื่อทำได้ให้สลับเปลี่ยนเป็นมือขวาชูนิ้วก้อย มือซ้ายชูนิ้วโป้ง

  • ท่าจีบแอล มือขวาทำมือเป็นรูปจีบ มือซ้ายทำเป็นรูปแอล (L) เมื่อทำได้ให้สลับเปลี่ยนเป็นมือขวาทำเป็นรูปแอล มือซ้ายทำเป็นรูปจีบ

  • ท่าจับจมูกจับหู มือขวาจับปลายจมูก มือซ้ายจับหูขวา เมื่อทำได้ให้สลับเปลี่ยนเป็น มือขวาจับหูซ้าย มือซ้ายจับปลายจมูก

    ท่าบริหารสมอง

 

ขออขอบคุณบทความจาก : www.thaihealth.or.th

Back To Top