18 สรรพคุณ…ประโยชน์ของสับปะรด ชิ้นเดียว ก็ต้านโรคได้
เวลาไปเดินตลาด เดินห้าง หรือเดินผ่านรถเข็นขายผลไม้ตามข้างทาง แล้วสังเกตดีๆ จะพบว่า “สับปะรด” มักเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีวางขายอยู่เสมอ นั่นเป็นเพราะสับปะรดออกผลให้เราได้กินตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องรอตามฤดูกาล และยังจัดเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพไม่น้อยเลย ซึ่งนอกจากจะกินได้แบบสดๆ แล้ว ยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง สับปะรดกวน แยมสับปะรด หรือปรุงเป็นอาหารก็ได้รสชาติที่อร่อยถูกปากหลายคนทีเดียว
แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ค่อยชอบผลไม้ชนิดนี้เท่าไร แม้ว่าสับปะรดมีรสหวานฉ่ำแต่ก็มีรสฝาดอยู่เล็กน้อย เมื่อกินเยอะๆ จะรู้สึกได้ แต่ทราบหรือไม่ว่า สรรพคุณ และประโยชน์ของสับปะรดนั้น เรียกว่าเป็นยารักษาโรคได้เป็นอย่างดี แม้เราจะทานเพียงแค่วันละชิ้นเดียว น่าทึ่งใช่ไหมค่ะ งั้นเราไปดูกันว่า สรรพคุณ ประโยชน์ของสับปะรดมีอะไรบ้าง
สับปะรด…มากประโยชน์ สรรพคุณครบครัน
แค่เรากินสับปะรดเพียงวันละ 1 ชิ้นก็ช่วยดูแลสุขภาพในช่องปากได้แล้ว อาทิ อาการเสียวฟัน หรือเลือดออกตามไรฟัน เพราะวิตามินซีที่มีอยู่มากนั่นเอง แถมอุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายซึ่งขาดไม่ได้ เช่น กรดโฟลิก แคลเซียม โพแทสเซียม แมงกานีส แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี ฯลฯ ซึ่งมีส่วนช่วยในการรักษาโรคได้หลายชนิด โดยความสามารถพิเศษที่ต้องยกนิ้วให้สับปะรดคือ การช่วยย่อยอาหารประเภทเนื้อและเสริมการดูดซึมอาหารได้ดี เพราะเอนไซม์บรอมีเลน (Bromelain) ที่มีอยู่ในสับปะรดนั้นถือเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งการต่อสู้กับโรค มีฤทธิ์ช่วยในระบบย่อยอาหาร ดังนั้นหากกินเนื้อสัตว์มากเกินไป ให้กินหรือดื่มน้ำสับปะรดหลังอาหารจะช่วยลดอาการแน่นท้องได้ชะงัด ที่สำคัญยังช่วยในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง ลดการจับตัวของเกล็ดเลือด และสลายไขมันในร่างกายได้ดี เมื่อบวกกับใยอาหารที่มีมากจึงเป็นผลไม้ที่ช่วยลดความอ้วนได้ดี
18 สรรพคุณของสับปะรด…บำบัดรักษาโรค
1 เสริมสร้างภูมิคุ้มกันภายในร่างกายให้แข็งแรง จากวิตามินซีที่มีอยู่สูงในสับปะรดจะทำให้ร่างกายติดเชื้อยากและต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
2 สรรพคุณของสับประรด ช่วยดูแลสุขภาพภายในช่องปากให้แข็งแรง ไม่เป็นโรคต่างๆ เกี่ยวกับช่องปากหรือโรคเหงือก
3 สับปะรดมีวิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีส ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระที่จะเข้ามาทำลายเซลล์ในร่างกาย
4 ประโยชน์ของสับปะรด ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส และช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
5 วิตามินซีที่มีสูงในสับปะรดนั้นยังช่วยบรรเทาและรักษาอาการหวัด ขับเสมหะในลำคอได้
6 ช่วยย่อยอาหารจำพวกโปรตีน เพราะในสับปะรดมีเอนไซม์ธรรมชาติคือ บรอมีเลน ที่ย่อยอาหารได้ทั้งสภาวะกรดและด่าง จึงลดอาการจุกเสียด แน่นท้อง
7 สามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งอัมพฤกษ์ อัมพาต เนื่องจากเอนไซม์บรอมีเลนที่มีอยู่สับปะรดจะไปช่วยลดการเกาะกันเป็นลิ่มเลือดของเกล็ดเลือด
8 เอนไซม์บรอมีเลนยังมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้ออ่อนๆ ที่ช่วยทำลายแบคทีเรียไม่มีประโยชน์ และยังช่วยสมานแผล ลดการอักเสบของกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ด้วย
9 กินสับปะรดเป็นประจำช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งปอด ฯลฯ โดยบรอมีเลนจะทำให้เม็ดเลือดขาวหลั่งสารไซโตไคน์ (Cytokines) ซึ่งช่วยให้เม็ดเลือดขาวกำจัดเซลล์มะเร็งได้
10 หากมีอาการท้องผูก ขับถ่ายไม่สะดวก ให้กินสับปะรดหลังอาหารเป็นประจำจะช่วยทำให้ระบบการขับถ่ายดีขึ้น สับปะรดมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ แต่ไม่ควรกินมากเกินไปเพราะจะทำให้เกิดอาการท้องเสียแทน
11 ใยอาหารในสับปะรดมีสรรพคุณไม่เป็นสองรองใครแน่นอน นั่นจึงทำให้เป็นผลไม้ที่ช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี และยังทำให้รู้สึกอิ่มเร็วด้วย
12 บรรเทาอาการจากโรคเกาต์ได้ โดยเอนไซม์บรอมีเลนจะช่วยยับยั้งอาการอักเสบ และยังช่วยลดอาการปวดข้อ ข้ออักเสบ หลังจากการออกกำลังกาย เล่นกีฬาหรือทำงานหนักๆ
13 สรรพคุณของสับปะรด มีฤทธิ์ช่วยในการขับปัสสาวะ ปัสสาวะไม่ออก แก้ขัดเบา รักษาโรคนิ่ว
14 ช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย จัดเป็นยาบำรุงกำลังจากธรรมชาติสำหรับผู้ชายที่ดีมาก
15 สับปะรดก็มีประโยชน์ต่อผู้หญิงเช่นกัน เพราะช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ขับประจำเดือนได้ดีขึ้น
16 วิตามินบี 1 และวิตามินบี 6 ในสับปะรดแม้จะมีไม่มากแต่มีความจำเป็นต่อร่างกาย เพราะจะช่วยป้องกันอาการเหน็บชา เหนื่อยง่าย ทำให้ระบบประสาทและเม็ดเลือดทำงานดีขึ้น ไม่เจ็บป่วยง่าย
17 สับปะรดอุดมด้วยแมกนีเซียมและแคลเซียม ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูกและเนื้อเยื่อ ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง
18 สับปะรดมีสรรพคุณบรรเทาอาการร้อนกระสับกระส่าย กระหายน้ำ ไม่ว่าจะกินแบบสดหรือปั่นเป็นน้ำสับปะรดดื่มก็ได้เช่นกัน
รู้ถึง 18 สรรพคุณ ประโยชน์ของสับปะรดที่ช่วยต้านโรคกันแล้ว…ก็อย่าหักโหมไปกินสับปะรดจนมากเกินไปล่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นผลเสียแทน เพราะสับปะรดมีฤทธิ์เป็นยาถ่าย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางไม่ควรจะกินในปริมาณมาก แล้วที่นี้เราก็จะได้รับประโยชน์จากสับปะรดอย่างเต็มที่แล้ว จะเลือกกินสับปะรดแบบสดๆ ฉ่ำๆ จะดื่มน้ำสับปะรดปั่น หรือนำมาทำเป็นอาหารก็ได้ไม่ว่ากัน และหากจะสะดวกกว่านั้น สับปะรดอบแห้ง ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก สุขภาพดอทคอม