![1](https://www.xn--12c8dbdcakpak3h7al.com/wp-content/uploads/2017/08/1-4.jpg)
ปัญหาตกขาว 15 อาการตกขาว
ปัญหาตกขาว
อาการตกขาว 15 ลักษณะ ที่เป็นปัญหาที่ทำให้ผู้หญิงเป็นกังวล
ปัญหาตกขาวลักษณะใดเรียกว่าเป็นอาการผิดปกติ ตกขาวลักษณะใดบอกโรค หรือตกขาวลักษณะแบบใดเป็นไปตามกลไกร่างกายตามธรรมชาติ
ตกขาว เรื่องปกติของสาว ๆ
ตกขาว คือของเหลวสีขาวใสหรืออาจเป็นของเหลวสีขาวขุ่นที่ออกมาจากช่องคลอด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องมี เพราะตกขาวเป็นของเหลวที่ถูกผลิตโดยต่อมภายในช่องคลอด เพื่อนำพาเอาเซลล์ที่ตายแล้วและแบคทีเรียในช่องคลอดออกมา ทั้งนี้ก็เพื่อความสะอาดและป้องกันการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์
ตกขาวผิดปกติ จะมีลักษณะดังต่อไปนี้
แม้อาการตกขาวจะต้องเกิดกับผู้หญิงทุกคน แต่ก็มีตกขาวบางลักษณะที่ไม่น่าไว้ใจ เพราะอาจบอกใบ้เป็นนัย ๆ ได้ว่า ระบบสืบพันธุ์ของสาว ๆ อาจมีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่
- ตกขาวสีเหลือง
ตกขาวสีเหลือง นับเป็นปัญหาตกขาวที่พบได้บ่อยที่สุดในหญิงวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งอาการตกขาวสีเหลืองก็จะแยกย่อยออกไปอีก เช่น ตกขาวสีเหลืองเข้ม ตกขาวสีเหลืองอ่อน หรือตกขาวสีเหลืองใส ๆ
สาเหตุให้ตกขาวเป็นสีเหลือง
ติดเชื้อแบคทีเรีย
เกิดจากที่เชื้อแบคทีเรียเข้าไปในช่องคลอด ทำให้เกิดอาการตกขาวที่มีสีเหลืองขุ่นและมีกลิ่นคาวปลา บางรายอาจจะมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งสาเหตุนี้ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการได้รับแบคทีเรียจากการที่มีเพศสัมพันธ์
ติดเชื้อจากโรคหนองใน
การติดเชื้อจากโรคหนองใน ถือเป็นการติดเชื้อจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะรุนแรงมากกว่าแบคทีเรียชนิดอื่น ๆ โดยจะมีอาการตกขาวสีเหลืองข้นมาก คัน และจะมีอาการปวดแสบขณะปัสสาวะร่วมด้วย
ติดเชื้อรา
สำหรับการตกขาวสีเหลืองที่เกิดจากเชื้อรา ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากสาเหตุการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน หรือมีภูมิต้านทานต่ำ ซึ่งตกขาวจะมีลักษณะสีเหลืองเป็นก้อน ๆ และมีกลิ่นคล้ายกับนมบูด บางรายเวลาปัสสาวะอาจจะมีอาการแสบคัน หรือถ้าหนักมาก ๆ ก็อาจจะมีอาการคันลามไปถึงบริเวณขาหนีบได้
ติดเชื้อไวรัส
สาเหตุนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่ติดต่อมาจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ ลักษณะอาการคือจะมีตกขาวสีเหลือง มีกลิ่นผิดปกติ และจะมีตุ่มใส ๆ ขนาดเล็ก หากแตกออกก็จะกลายเป็นแผลและแสบคัน
ติดเชื้อจากพยาธิในช่องคลอด
อาการตกขาวจากสาเหตุนี้ ลักษณะจะมีสีเหลืองแต่ไม่ข้นมาก บางครั้งจะเป็นฟอง มีอาการคัน และมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ส่วนใหญ่การติดเชื้อชนิดนี้จะเป็นโรคติดต่อมาจากการมีเพศสัมพันธ์ หรืออาจจะเกิดจากแผลที่เกิดจากสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในช่องคลอด เช่น ผ้าอนามัยแบบสอด หรืออุปกรณ์ทางเพศ เป็นต้น
วิธีรักษาและป้องกันอาการตกขาวสีเหลือง
– ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อตรวจหาสาเหตุและวิธีรักษาที่ถูกต้อง วิธีนี้จะช่วยให้หายได้เร็วที่สุด
– ใช้ยาเหน็บช่องคลอดหรือกินยาปฏิชีวนะ จะทำให้อาการตกขาวหายเร็วขึ้น ทั้งนี้ก่อนใช้ยาเหน็บหรือรับประทานยา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเสียก่อน
– รับประทานยาคูลท์เป็นประจำ จะช่วยเพิ่มจุลินทรีย์แลคโตบาซิลัสให้กับร่างกาย ซึ่งจะช่วยทำลายแบคทีเรียในช่องคลอดได้
– ล้างจุดซ่อนเร้นให้สะอาด และไม่ควรใช้สบู่ล้างบ่อย ๆ เพราะสบู่จะไปฆ่าแบคทีเรียชนิดดีออกไป ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
– ก่อนมีเพศสัมพันธ์ ควรล้างอวัยวะเพศให้สะอาดก่อนทุกครั้ง
– สวมกางเกงในที่สะอาด นุ่มสบาย และไม่อับชื้น
– เมื่อต้องใส่ผ้าอนามัยควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ
- ตกขาวสีน้ำตาล เป็นตกขาวอีกชนิดที่พบได้บ่อยเหมือนกัน แต่ส่วนมากจะพบตกขาวสีน้ำตาลในช่วงหลังประจำเดือนหมดไปแล้ว การมีตกขาวสีน้ำตาลหลังเป็นประจำเดือนก็สามารถบอกความผิดปกติของผนังมดลูกได้เช่นกัน
ตกขาวสีน้ำตาล ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม
สำหรับตกขาวสีน้ำตาล ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากสาเหตุที่ผนังมดลูกลอกตัวช้า สามารถพบได้หลังช่วงที่มีประจำเดือน ซึ่งในช่วงที่มีประจำเดือนผนังมดลูกยังไม่ทันลอกตัวออกมาหมด หรือบางทีก็ไม่ลอกตัวออกมาเป็นประจำเดือน ทำให้กลายมาเป็นตกขาวสีน้ำตาลภายหลังที่มีประจำเดือนไปแล้ว ทั้งนี้ปัญหานี้สามารถแสดงให้เห็นได้ว่ามดลูกของคุณนั้นเริ่มที่จะมีปัญหา หย่อนคล้อย และไม่กระชับนั่นเอง
ทั้งนี้สำหรับใครที่มีปัญหาตกขาวเป็นสีน้ำตาล เบื้องต้นสามารถรักษาได้โดยการดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรืออาจจะรับประทานสมุนไพรเพื่อช่วยในการบำรุงมดลูก อย่างเช่น ยาสตรี หรือว่านชักมดลูก เป็นต้น ทั้งนี้สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจ ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอีกที เพื่อที่จะรักษาได้อย่างตรงจุด เพราะถ้าหากอาการตกขาวสีน้ำตาลเป็นสาเหตุจากโรคอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ผนังมดลูกลอกตัวช้าจะได้รู้ทันและรักษาได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง
- ตกขาวเป็นน้ำ บางคนตกใจที่ตัวเองมีตกขาวเยอะ ไหลเหมือนเป็นน้ำ ซึ่งอาการตกขาวเป็นน้ำก็ไม่เชิงว่าอันตราย แต่จะเกิดได้จากอะไรนั้นตามมาดูเลย
สำหรับตกขาวเป็นน้ำ อาการนี้สาว ๆ หลายคนอาจเป็นกันได้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีตกขาวมากกว่าปกติ ส่วนใหญ่มักจะเกิดในช่วงใกล้ ๆ ตกไข่ หรือใกล้มีประจำเดือน เพราะมูกบริเวณปากมดลูกจะมีเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นน้ำใส ๆ ไหลออกมาจากช่องคลอด ซึ่งจะเป็นลักษณะที่ไม่มีสี ไม่คัน และไม่มีกลิ่น ซึ่งถือเป็นอาการตกขาวที่ปกติ และจะหายไปได้เอง
ทั้งนี้หากอาการตกขาวเป็นน้ำ ไหลออกมาเป็นฟอง และมีอาการคันร่วมด้วย อาจจะเป็นเพราะช่องคลอดเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อแบคทีเรีย สำหรับอาการแบบนี้ใครที่เป็นควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและทำการรักษา จะช่วยให้หายได้เร็วขึ้น และเมื่อหายแล้วก็อย่าลืมดูแลจุดซ่อนเร้นและรักษาความสะอาดให้ดี หลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย แค่นี้ก็จะช่วยไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีกได้
- ตกขาวสีเขียว อาการตกขาวสีเขียวเป็นอาการที่พบได้บ่อย และที่น่าตกใจคือสาเหตุของการตกขาวสีเขียวอาจเป็นเพราะการติดเชื้อมาจากเพศสัมพันธ์ก็ได้ หรือเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย ว่าแล้วเราก็มาเจาะลึกอาการตกขาวสีเขียวกันดีกว่าตกขาวสีเขียว
สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้หญิงเกิดอาการตกขาวสีเขียว เป็นเพราะว่าช่องคลอดเกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ซึ่งอาจเกิดได้จากการที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในช่องคลอด หรือแม้แต่การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อโรค เช่น โรคหนองใน เป็นต้น ซึ่งลักษณะของอาการที่สังเกตได้เบื้องต้นก็คือ ตกขาวจะมีลักษณะสีเขียว บางครั้งก็อาจจะมีสีเหลืองปนเขียว มีกลิ่นเหม็นคาวปลา บางรายอาจจะมีอาการคัน และปวดแสบขณะปัสสาวะร่วมด้วย
วิธีรักษาอาการตกขาวสีเขียว
พบสูตินรีแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุที่แน่นอน เพื่อที่จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องและรวดเร็ว
ใช้ยาเหน็บช่องคลอดหรือรับประทานยาปฏิชีวนะ แต่ทั้งนี้ก็ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางก่อนใช้
ก่อนมีเพศสัมพันธ์ควรล้างอวัยวะเพศให้สะอาด
หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรคหนองใน
ดูแลและรักษาอวัยวะเพศให้สะอาดอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้อับชื้น
หลีกเลี่ยงการสอดใส่สิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ เข้าไปในอวัยวะเพศ
- ตกขาวเป็นเมือกใส ลักษณะตกขาวเป็นมูกใส มีความเหนียวยืด ไร้กลิ่น และหลั่งออกมาค่อนข้างมาก นั่นอาจเป็นสัญญาณของอาการไข่ตก ซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนไป เช่นเดียวกับในผู้หญิงตั้งครรภ์ ตกขาวก็จะมีปริมาณเยอะขึ้นด้วย เพราะฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ซึ่งการที่มีตกขาวเยอะอย่างนี้ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ แต่เมื่อไรก็ตามที่ตกขาวมีลักษณะเปลี่ยนไป มีกลิ่นเหม็น มีอาการคันช่องคลอดร่วมด้วย หรือมีปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย ลักษณะนี้ถือว่าผิดปกติ อาจมีการติดเชื้อในช่องคลอดหรือบริเวณปากมดลูก ให้รีบปรึกษาแพทย์จะดีกว่า
- ตกขาวเป็นสีขาว มีปริมาณเยอะ หรือมีก้อนสีขาวเล็ก ๆ ปะปน หากตกขาวมีลักษณะดังกล่าว ร่วมกับมีอาการคันบริเวณช่องคลอดหรืออวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกร่วมด้วย อาการนี้อาจเกิดจากการอักเสบติดเชื้อจากเชื้อรา ซึ่งพบได้ค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางช่องคลอดอันเนื่องมาจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนไป ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี และเราก็ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ดังนั้นหากพบว่าตกขาวผิดปกติ ลองตรวจภายในกับแพทย์อีกครั้ง
7. ตกขาวมีกลิ่นแรงมากผิดปกติ
ตกขาวมีกลิ่นแรงมาก เหม็นมากผิดปกติ อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเชื้อแบคทีเรียภายในช่องคลอด (ความเป็นกรด-ด่างไม่เท่ากัน) กล่าวคือมีเชื้อแบคทีเรียชนิดไม่ดีมากกว่าเชื้อแบคทีเรียชนิดดี ซึ่งภาวะนี้อาจเกิดได้หลายปัจจัย ทั้งการสวนล้างช่องคลอด การนอนแช่อ่างน้ำที่มีฟองสบู่มาก การใช้น้ำยาเฉพาะที่ หรือใช้สเปรย์ดับกลิ่นอวัยวะเพศ การสวมใส่กางเกงในที่ซักล้างไม่สะอาด การสูบบุหรี่ หรือกระทั่งการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย รวมทั้งการใช้ปากกับอวัยวะเพศของฝ่ายหญิง เพราะปัจจัยเหล่านี้เป็นเหตุให้ความเป็นกรด-ด่างในช่องคลอดเกิดความไม่สมดุล ส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียไม่ดีจู่โจมเราได้
- ตกขาวไหลออกมาเรื่อย ๆ และคันอาการตกขาวไหลเป็นน้ำ ไหลอย่างต่อเนื่องร่วมกับอาการแสบ ๆ คัน ๆ ช่องคลอด อาจบอกเป็นนัยได้ว่าคุณกำลังติดเชื้อไวรัสเฮอร์ปี ซิมเพลกซ์-2 ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่มักพบในอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง โดยเชื้อไวรัสชนิดนี้อาจทำให้ตกขาวมีปริมาณมากกว่าปกติได้ อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตกขาวมีมากผิดปกติ ก็เกิดจากการมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในช่องคลอด เช่น ผ้าอนามัยชนิดสอด ห่วงอนามัย เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของการติดเชื้อไวรัสบางชนิดได้เช่นกันแต่อีกสาเหตุที่น่าเป็นกังวลก็คือ อาการตกขาวมีมากกว่าปกติ ชนิดที่ไหลอย่างต่อเนื่อง อาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของมดลูก ซึ่งอาจเกิดอาการอักเสบ ติดเชื้อ ทำให้มีตกขาวปริมาณมากได้ หรือท่อรังไข่มีอาการอักเสบ สาเหตุนี้ก็อาจทำให้มีตกขาวมากได้ ซึ่งทางที่ดีให้รีบไปตรวจสุขภาพภายในกับแพทย์จะดีกว่า 9. ตกขาวเกาะกันเป็นก้อนเหมือนแป้งเปียกอาการตกขาวเป็นก้อนคล้าย ๆ แป้งเปียก บ่งบอกได้ว่าคุณอาจติดเชื้อราในช่องคลอด โดยอาการตกขาวเป็นก้อนมักจะมาพร้อมกับอาการคันช่องคลอด หรือมีอาการบวมแดง รู้สึกเจ็บเมื่อมีเพศสัมพันธ์ แต่ทั้งนี้อาการตกขาวเป็นก้อนคล้ายแป้งเปียกอาจเกิดขึ้นกับคนที่รับประทานยาบางชนิด โดยเฉพาะยาที่ให้ฤทธิ์การรักษาเกี่ยวกับมดลูก โพรงมดลูก ระบบภายในของผู้หญิง เป็นต้น ซึ่งหากพบว่ามีอาการตกขาวเป็นก้อน น่าจะปรึกษาแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุของอาการที่แท้จริง
10. ขาวมีสีเหลือง คล้ายหนอง หากตกขาวมีสีเหลืองข้น ลักษณะคล้ายหนอง หลั่งออกมาในปริมาณค่อนข้างมาก แต่ไม่มีอาการคัน ไม่มีกลิ่นเหม็น เคสนี้อาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อบริเวณปากมดลูก หรือการติดเชื้อที่มาจากเพศสัมพันธ์ เช่น ติดเชื้อหนองในมาจากคนรัก เป็นต้น ทว่าเพื่อความแน่ใจ ให้สูตินรีแพทย์ตรวจซ้ำอีกที
- ตกขาวสีเทา มีกลิ่นคาวปลาอาจเกิดจากอาการช่องคลอดอักเสบเนื่องจากติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ขาดความสมดุลในช่องคลอด ก่อให้เกิดตกขาวสีขาวขุ่นหรือสีเทา มีลักษณะเป็นเมือกบาง ๆ และเปียก ร่วมกับมีกลิ่นคาวปลาเค็ม บางคนอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอด และเจ็บช่องคลอดเมื่อมีเพศสัมพันธ์ และจะสังเกตได้ชัดว่ากลิ่นเหม็นของตกขาวจะรุนแรงหลังการร่วมเพศ หรือหลังหมดประจำเดือนใหม่ ๆ หรือบางคนอาจมีตกขาวสีเทาที่ไม่มีกลิ่นเลยก็เป็นได้
- ตกขาวเป็นฟอง
บางคนจะพบว่าตกขาวของตัวเองมีสีเหลือง ลักษณะคล้ายฟอง หรือบางคนอาจมีตกขาวสีเขียวและเป็นฟองก็ได้ ซึ่งอาการตกขาวเป็นฟองดังกล่าวสันนิษฐานได้ว่าเกิดจากเชื้อพยาธิตัวเล็ก ๆ ในช่องคลอด ทำให้ตกขาวมีปริมาณเยอะ มีอาการคัน และหากคุณสาว ๆ เกาให้หายคัน ก็อาจเจอกับอาการแสบตอนปัสสาวะได้ด้วย 13. ตกขาวสีชมพูแม้จะเป็นตกขาวสีมุ้งมิ้งแต่ผู้หญิงก็เป็นกังวลกันมาก ซึ่งตกขาวสีชมพูแบบนี้มักจะพบในคุณแม่หลังคลอดบุตรค่ะ เนื่องจากตกขาวสีชมพูอาจเป็นการหลุดลอกของเยื่อบุมดลูกหลังคลอดนั่นเอง 14.ตกขาวมาก ร่วมกับมีตุ่มบวมแดง
หากมีอาการตกขาวมากกว่าปกติ ร่วมกับสังเกตเห็นตุ่มบวมแดงรอบอวัยวะเพศด้วย ก็เป็นไปได้ว่าคุณกำลังติดเชื้อเริมทีอวัยวะเพศ แนะนำ รีบพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาโดยด่วน 15. ตกขาวมีลิ่มเลือดปนออกมา อาการตกขาวที่มีลิ่มเลือดปนออกมา ตกขาวมีกลิ่น หรือมีสีที่ผิดปกติ อาจบอกเป็นนัย ๆ ได้ว่าช่องคลอดของคุณสาว ๆ อักเสบและติดเชื้อก็เป็นได้ ซึ่งสาเหตุของการอักเสบก็เกิดได้หลายปัจจัยค่ะ เช่น ภูมิต้านทานร่างกายต่ำ ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือบางคนเข้าห้องน้ำสาธารณะที่ค่อนข้างสกปรก มีสุขอนามัยที่แย่ ก็อาจติดเชื้อได้เช่นกัน ดังนั้นสาว ๆ คนไหนสังเกตพบว่าตกขาวของเรามีลิ่มเลือดปนออกมาด้วย ก็ขอให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพให้ชัดเจนดีกว่าโปรดพึงระลึกอยู่เสมอว่าอาการตกขาวผิดปกติเกิดได้จากหลายสาเหตุ หลากปัจจัย ดังนั้นอย่าวินิจฉัยโรคด้วยตัวเอง และซื้อยามากินเองโดยเด็ดขาดนะคะ แต่หากพบอาการผิดปกติควรพบแพทย์เพื่อตรวจภายในไปเลย ทั้งนี้ก็เพื่อการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัยกับตัวสาว ๆ เองนั่นแหละ
10 อาหารที่สาว ๆ ควรเลี่ยง ปัญหาตกขาว เพื่อลดอาการตกขาว
ปัญหาตกขาวเยอะมากจนตกใจว่าภายในร่างกายเรามีโรคอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า แต่บางทีอาการตกขาวเยอะมากอาจเพราะสาว ๆ กินอาหารกระตุ้นตกขาวโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้
อาการตกขาวเป็นสิ่งที่สาว ๆ ทุกคนต้องเจอค่ะ เพราะเป็นกลไกที่ปกติของร่างกาย ยิ่งเวลาใกล้มีประจำเดือนตกขาวก็จะมีมากขึ้น เนื่องจากร่างกายเรามีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเล็กน้อยก่อนที่ประจำเดือนจะมา ทว่าสำหรับสาวคนไหนที่รู้สึกเหมือนตกขาวออกมามากเกินไป ลองสำรวจดูสิคะว่าคุณได้กินอาหารเหล่านี้บ่อย ๆ หรือเปล่า
- ชา กาแฟ การดื่มชาหรือกาแฟมากเกินไปสามารถกระตุ้นให้มีอาการตกขาวเยอะขึ้นได้ เนื่องจากชาและกาแฟมีคาเฟอีนที่อาจส่งผลให้แบคทีเรียในช่องคลอดเสียสมดุล อีกทั้งในชาและกาแฟก็มีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างมาก ซึ่งน้ำตาลนี่แหละค่ะที่อาจเพิ่มโอกาสการติดเชื้อในช่องคลอดได้ เพราะเชื้อราชอบความหวานไม่เบาเลยล่ะแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการดื่มชาและกาแฟให้ส่งผลต่อภาวะตกขาวมากผิดปกติ ก็ต้องเป็นเคสที่ดื่มชาและกาแฟมากเกิน 4 แก้วต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่มากเกินกว่าร่างกายจะขับคาเฟอีนและเผาผลาญพลังงานได้หมด
- อาหารประเภทแป้ง โดยเฉพาะแป้งขัดขาว พวกขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยว และข้าวขัดขาว อาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวเหล่านี้ร่างกายเราจะย่อยและเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้เร็วมาก ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นได้ และเมื่อมีความหวานอยู่ในกระแสเลือดเยอะ โอกาสในการติดเชื้อในช่องคลอดก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นสาว ๆ สายแป้งก็อาจจะมีตกขาวเยอะมากกว่าปกติ
- น้ำตาล นม เนย นอกจากความหวานที่มากเกินไปจะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดง่ายขึ้นแล้ว การรับประทานอาหารที่มีนม-เนยเยอะ ๆ ก็อาจทำใความเป็นกรด-ด่างในช่องคลอดเสียสมดุลด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วงนี้เชื้อราและแบคทีเรียอาจจู่โจมช่องคลอดเราได้ง่ายขึ้น เป็นสาเหตุของอาการตกขาวเยอะมากผิดปกติในที่สุด
- แอลกอฮอล์ สายดริงก์ที่เจอกับภาวะตกขาวเยอะหนักมาก ลองลดหรืองดการดื่มแอลกอฮอล์สักพัก แล้วคุณจะสังเกตเห็นได้ชัดว่าอาการตกขาวเยอะผิดปกติค่อย ๆ หายไป เพราะแอลกอฮอล์ที่แหละตัวร้าย ทำลายความสมดุลในช่องคลอด ไล่แบคทีเรียเจ้าถิ่นให้ลดจำนวนลง กระทั่งเกิดการติดเชื้อในช่องคลอดและแสดงอาการออกมาเป็นตกขาว
- อาหารรสจัด สภาพความร้อนและอับชื้นเป็นแหล่งโปรดของเชื้อรา และอาหารรสจัดก็เป็นอาหารประเภทที่เพิ่มอุณหภูมิร่างกายได้ อีกทั้งยังอาจกระตุ้นการหลั่งของน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร หรือในบางคนอาจก่อให้เกิดอาการลำไส้แปรปรวน ซึ่งหมายความว่าแบคทีเรียในกระเพาะอาหารเราเสียสมดุล จนอาจไปกระทบต่อสมดุลแบคทีเรียในช่องคลอดด้วยก็ได้
- อาหารทะเล ในอาหารทะเลมีสารเคมีตัวหนึ่งซึ่งกระตุ้นให้เกิดภาวะตกขาวและอาจทำให้เกิดอาการคันในช่องคลอดได้ด้วยนะคะ โดยเฉพาะคนที่กินอาหารทะเลบ่อย ๆ และชอบกินมากเป็นพิเศษ อาจมีตกขาวมากกว่าปกติได้
- เครื่องเทศ
ในเครื่องเทศก็มีสารที่กระตุ้นการเกิดตกขาวด้วยเช่นกันค่ะ และอีกอย่างก็คือเครื่องเทศเป็นสมุนไพรที่มีความเผ็ดร้อนอยู่ไม่น้อย เจอทั้งเขตอบอุ่นและสารกระตุ้นแบบนี้โอกาสในการเกิดเชื้อราในช่องคลอดยิ่งมีมากขึ้น ตกขาวก็เลยเยอะไปตามระเบียบ - ของหมักดองของหมักดองทุกชนิด ไม่เว้นแต่ปลาร้าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้นะคะ รวมไปถึงของคาวจัด ๆ อย่างพวกปลาเค็ม หรืออาหารทะเลด้วย ดังนั้นหากกินมากเกินไป ก็อาจทำให้มีอาการตกขาวเยอะขึ้น โดยตกขาวอาจมีสีเทาอ่อน มีกลิ่นเหม็นคล้ายกลิ่นคาวปลาเค็ม และอาจมีอาการระคายเคืองช่องคลอดร่วมด้วย
- ผักกลิ่นแรงเช่น หัวหอม หน่อไม้ ซึ่งตามตำราแพทย์แผนจีนระบุว่า อาหารที่มีกลิ่นแรงอาจมีส่วนกระตุ้นให้อาการตกขาวกำเริบได้ง่าย ยิ่งหากอยู่ในช่วงที่กำลังรักษาอาการตกขาวอยู่ อาหารเหล่านี้ควรเลี่ยงให้ไกลเชียวค่ะ
- อาหารมัน อาหารทอดสาว ๆ ที่มักจะชอบกินของทอด อาหารมัน ๆ อยู่บ่อย ๆ คงไม่วายจะน้ำหนักขึ้นหรือเรียกง่าย ๆ ว่าอ้วนแน่นอน ซึ่งภาวะอ้วนนี่แหละค่ะที่เป็นสาเหตุของอาการตกขาวมากผิดปกติได้หลายด้าน ทั้งการมีระดับไขมันในเลือดที่มากเกินไปซึ่งอาจทำให้ฮอร์โมนเพศแปรปรวนได้ง่าย อีกทั้งความอ้วนก็จะเพิ่มโอกาสในการอับชื้น โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ขาเบียด ทำให้ส่วนสงวนของร่างกายไม่ค่อยได้รับการระบายความร้อนเท่าที่ควร ความอับชื้นตรงนี้ก็มีส่วนเพาะเชื้อโรค เชื้อรา จนอาจเป็นสาเหตุให้เกิดตกขาวได้เหมือนกันค่ะนอกจากนี้ในคนที่กินยาปฏิชีวนะ ยาคุมกำเนิด ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้แบคทีเรียและฮอร์โมนขาดสมดุล จนเสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดและแสดงอาการออกมาเป็นตกขาวได้ ดังนั้นหากพบว่าอาการตกขาวของเราผิดปกติเพราะกินยาเหล่านี้อยู่ แนะนำปรึกษาสูตินรีแพทย์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ภาควิชา สูติศ่สตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
กรมสุขภาพจิต
คลินิกหัวเฉียวไทย-จีน แพทย์แผนไทย
หมอชาวบ้าน
health.kapook.com