ปลูกผักอะไรดีในพื้นที่เล็กๆ
พื้นที่น้อยไม่ใช่ปัญหาของการปลูกผัก เพราะเราสามารถเลือกรูปแบบการปลูก ชนิดของพืชผักที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมได้
- รูปแบบการปลูกผัก
ปลูกผักพืชเลื้อยผักพืชเลื้อยนอกจากทานได้แล้ว ยังมีประโยชน์ช่วยกําบังแสงแดด เช่น ถั่วลันเตา ตําลึง ที่เหมาะกับการปลูกในพื้นที่เล็ก เช่น ระเบียงคอนโดมิเนียม วิธีการก็คือ สร้างห้างให้พืชเลื้อยแบบง่ายๆ ด้วยท่อ PVC มาต่อกับข้อต่อ โดยจะทําเป็นรูปทรงอะไรก็ตามแต่สะดวก หรือจะใช้ไม้ไผ่ทําก็ได้
ยอดอ่อนของถั่วลันเตาที่เรารู้จักกันในชื่อ “โต้วเหมี่ยว” เมื่อครบ 7 วัน ก็สามารถตัดมาทานได้แล้ว รวมถึงถั่วชนิดอื่นๆ เช่น ถั่วเขียว เมื่อเพาะได้ 4 วัน เราก็จะได้ “ถั่วงอก” มาทาน เห็นไหมว่าการปลูกผักทานเองไม่ยากและไม่ต้องรอนาน
- ปลูกพืชสมุนไพร
พืชสมุนไพร เช่น กะเพรา ตะไคร้ หอมแดง สะระแหน่ โหระพา กุยช่าย และพริก เป็นพืชลักษณะเล็กสามารถปลูกในกระถางหรือวัสดุประยุกต์ขนาดไม่ต้องใหญ่
- ปลูกผักแนวตั้ง
การปลูกผักแนวตั้งเป็นสไตล์ที่เหมาะกับพื้นที่ที่ค่อนข้างจํากัด อุปกรณ์ในการเพาะปลูกที่นํามาจัดสวนแนวตั้งได้นั้น ได้แก่ กระถาง ขวดน้ำ แก้วกาแฟ หรือภาชนะอื่นๆ ในบ้านที่นํามาประยุกต์แขวนไว้กับผนังหรือระเบียงได้ แต่ภาชนะที่นํามาประยุกต์ใช้จะต้องเก็บดินได้และน้ำสามารถไหลออกได้
- ปลูกผักแนวนอน
วิธีการนี้เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ไม่น้อยจนเกินไป เช่น มีบริเวณดาดฟ้าหรือบริเวณหน้าบ้านหรือหลังบ้าน โดยใช้วิธีปลูกผักในกระบะ และนอกจากกระบะแล้วยังสามารถนําท่อ PVC มาต่อแล้วใช้แสลนปูรองที่พื้นก็ปลูกผักได้ด้วย วิธีนี้ดินก็ไม่ไหลออกมาเช่นกัน เป็นวิธีที่ทําง่าย ทน และราคาถูก
เคล็ดลับปลูกผักแนวนอน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ความร้อนและน้ำหนัก ซึ่งผู้ช่วยชั้นดีในการลดความร้อนและน้ำหนักก็คือ ถ่านหรือกาบมะพร้าว โดยการปูไว้ด้านล่างภาชนะครึ่งหนึ่ง
- ควรเลือกผักที่มีรากหยั่งลึกน้อยถึงปานกลางจะได้เหมาะกับการปลูกผักในกระถางหรือกระบะ
– ผักหยั่งรากตื้น เช่น คะน้า กะหล่ำปลีผักกาดขาว ผักกาดเขียว ผักกาดหอมสะระแหน่ ผักชี ตั้งโอ๋ เป็นต้น
– ผักหยั่งรากกลาง ได้แก่ กะเพรามะเขือ โหระพา พริก มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว แตงกวา แมงลัก เป็นต้น
- เลือกผักชนิดที่ปลูก 1 ครั้ง แต่เก็บเกี่ยวได้หลายครั้ง เช่น กะเพรา เป็นต้น เพราะเราจะมีผักกินได้เรื่อยๆ (หากปลูกผักที่ตัดกินได้ครั้งเดียว ต้องรออีก 1-2 เดือน กว่าจะได้ปรุงอาหารอีกครั้ง)
- ควรปลูกผักให้หลายๆ ชนิด เพราะร่างกายมนุษย์ต้องการสารอาหารที่หลากหลาย
10 ผักสวนครัวปลูกในกระถาง
วิธีปลูกผักสวนครัวในกระถาง แม้พื้นที่ในบ้านจะคับแคบ แต่ก็สามารถปลูกผักสวนครัวเอาไว้กินเองได้ง่าย ๆ มีผักสด ๆ ไว้กินได้ทุกวัน แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วยวันนี้จะมีตัวอย่างผักสวนครัวที่สามารถปลูกในกระถางได้มาแนะนำกันนะคะ
1. วิธีปลูกผักชี
เริ่มจากนำดินปลูกมาตากให้แห้ง แล้วเอาไปผสมกับปุ๋ยคอกที่เตรียมไว้ จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์ผักชีมาบดเบา ๆ ให้แตกออกเป็น 2 ส่วน แล้วแช่น้ำไว้ 3 ชั่วโมง นำมาผึ่งลมอีกครั้ง ก่อนคลุกเมล็ดกับทรายและขี้เถ้า แล้วปลูกลงในกระถาง คลุมหน้าดินด้วยฟาง ตามด้วยรดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะเกินไป
2. วิธีปลูกต้นหอม
ขั้นตอนแรกคือนำเปลือกถั่วลิสงบดและผสมกับดินร่วน จากนั้นนำดินใส่ในกระถางปลูก แล้วนำต้นหอมมาตัดตั้งแต่รากขึ้นไปยังลำต้นประมาณ 1.5-2 นิ้ว ให้เหลือท่อนเล็ก ๆ ก่อนปักชำลงในกระถางที่เตรียมไว้ รดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หลังจากใบงอกแข็งแรงแล้ว ให้เปลี่ยนมารดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้งก็พอ
3. วิธีปลูกพริก
นำเมล็ดพริกไปแช่น้ำไว้ 1 วัน ผึ่งให้แห้ง แล้วหันไปผสมดินร่วน ทราย และปุ๋ยหมัก เพื่อเทลงในกระถางเพาะกล้า จากนั้นหย่อนเมล็ดพริกลงไปปลูกในดิน ดูแลรดน้ำให้ต้นโตสูงประมาณ 6 นิ้ว คัดเลือกเอาต้นกล้าที่แข็งแรงที่สุดไปปลูกในกระถางที่มีดินร่วนปนทรายและปุ๋ยหมัก รดน้ำเช้า-เย็น และตั้งให้โดนแดด
4. วิธีปลูกกะเพรา
หลังจากทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้ายังมีต้นกะเพราเหลืออยู่ อย่าเพิ่งทิ้งค่ะ ให้นำก้านมาลิดใบออกจนหมด และตัดฐานก้านออกเพียงเล็กน้อย จากนั้นนำไปปักลงในกระถางที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยคอก รดน้ำเช้า-เย็นให้ชุ่มแต่อย่าแฉะ และตั้งให้โดนแดด
5. วิธีปลูกมะนาว
ก่อนอื่นต้องนำเมล็ดมะนาวมาล้าง ตากให้แห้ง และแช่ในน้ำเย็นอีก 1 คืน จากนั้นห่อเมล็ดด้วยกระดาษทิชชู นำไปใส่กล่องที่มีฝาปิด คอยพรมน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ รอให้รากงอกภายใน 2-3 วัน แล้วค่อยย้ายเมล็ดมาปลูกในกระถางที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยคอก รดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะ และตั้งกระถางให้โดนแดดรำไร
6. วิธีปลูกผักบุ้ง
คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ผักบุ้งที่สมบูรณ์ที่สุดมาปลูกลงในดินร่วนผสมปุ๋ยคอก แล้วรากจะงอกออกมาภายใน 2-3 วัน จากนั้นควรดูแลเรื่องความชื้นของดินเป็นพิเศษ เพราะผักบุ้งเป็นพืชที่ชอบความชื้นมาก อย่าปล่อยให้ขาดน้ำเด็ดขาด มิเช่นนั้นต้นจะตายได้ รออีกแค่ 1 เดือน ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตมากินได้เลยค่ะ
7. วิธีปลูกแตงกวา
นำดินร่วนปนทรายมาผสมกับปุ๋ยหมักในอัตราส่วนที่เท่า ๆ กันในกระถางปลูก จากนั้นนำเมล็ดที่สมบูรณ์ลงไปปลูกในกระถางประมาณ 4-5 เมล็ด เมื่อต้นเริ่มโตเพียง 5-7 เซนติเมตร ให้เลือกต้นที่แข็งแรงเก็บไว้ แล้วถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์ทิ้งไป หาไม้หลักมาปักให้ต้นเลื้อย รดน้ำที่โคนต้นให้ชุ่ม นำมาตากแดดวันละ 6 ชั่วโมง และใส่ปุ๋ยบำรุงดิน
8. วิธีปลูกมะกรูด
นำเมล็ดมะกรูดมาล้างน้ำแล้วตากให้แห้ง เพาะลงในกระถางที่มีดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยคอก เมื่อมีใบงอกออกมา 3-4 ใบ ให้ย้ายมาปลูกในถุงเพาะ รอให้ต้นแข็งแรงแล้วค่อยย้ายลงไปปลูกในกระถางที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยคอก รดน้ำแค่ตอนเช้าเท่านั้น และนำมาตั้งให้โดนแดดวันละ 8 ชั่วโมง
9. วิธีปลูกกวางตุ้ง
เริ่มจากการนำดินร่วมมาผสมปุ๋ยคอกในกระถางปลูกซะก่อน จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์กวางตุ้งที่สมบูรณ์ที่สุด มาหยอดลงในหลุมดินขนาด 1.5 เซนติเมตร กลบดินทับ และรดน้ำให้ชุ่ม และตั้งให้โดนแดด กวางตุ้งก็จะเจริญงอกงามพร้อมให้เก็บกิน
10. วิธีปลูกมะระ
มะระเป็นพืชรสขมที่ใคร ๆ ก็เบือนหน้าหนี แล้วรู้หรือไม่ว่ามะระนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าที่เราคิด แถมยังปลูกง่ายและโตไวอีกด้วย เพียงแค่นำเมล็ดพันธุ์ 1-2 เมล็ด มาปลูกลงในกระถางที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยคอก ดูแลรดน้ำวันละ 1 ครั้ง และเมื่อต้นเริ่มงอกก็อย่าลืมหาไม้หลักมาปักให้ต้นเลื้อยด้วยนะคะ
ขอขอบคุณบทความจาก : www.thaihealth.or.th , home.kapook.com