วิธีการ ทำให้เอวเล็กลงด้วยวิธีธรรมชาติ
การมีเอวคอดเข้ากับรูปร่างของเรานับว่าเป็นความงามอย่างหนึ่งที่สาวๆ อยากได้ เห็นได้จากรูปร่างทรงนาฬิกาทรายซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ดาราหนังยุคก่อนๆ ถึงแม้ว่าขนาดรอบเอวตามธรรมชาติของผู้หญิงจะเป็นไปตามกรรมพันธุ์ แต่ก็สามารถทำให้เล็กลงได้ด้วยการลดน้ำหนัก การออกกำลังกาย และการเลือกใส่เสื้อผ้าหรือวิธีตามธรรมชาติ อีกหลากหลายวิธี มีวิธีไหนบ้าง ตามมาดูกันเลยจ้า
-
เปลี่ยนอาหารที่ทาน. เอวที่เล็กลงจะต้องอาศัยการลดน้ำหนัก ซึ่งไม่สามารถทำได้โดยการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว คุณจะต้องหันมาทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดปริมาณแคลอรีในแต่ละวันเพื่อที่จะให้เห็นผลจริงๆ การทำเช่นนี้จะต้องอาศัยวินัยและความมุ่งมั่น นอกจากการลดปริมาณแคลอรีแล้ว คุณสามารถเลือกทานอาหารดีๆ บางอย่างที่จะทำให้คุณลดรอบเอวได้
- อย่างเช่น ในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มคนที่ทานแต่ธัญพืชชนิดไม่ผ่านการขัดสีหรือโฮลเกรน (เพิ่มเติมจากการทานผักผลไม้ 5 ส่วน นมไขมันต่ำ 3 ส่วน และเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อปลา เนื้อไก่ที่ไม่ติดมัน 2 ส่วน) สามารถลดไขมันบริเวณหน้าท้องได้มากกว่ากลุ่มคนที่ทานอาหารอย่างเดียวกันคู่กับธัญพืชที่ผ่านการขัดสี อย่าลืมว่าหากทานผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงเป็นปริมาณมากจะทำให้ลดน้ำหนักได้ช้าลง
- ในการลดน้ำหนักสัก 2 กิโลกรัม คุณจะต้องลดแคลอรี่จากอาหารของเราไป 3500 แคลอรี ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำว่าการลดน้ำหนักที่ยังทำให้มีสุขภาพดีนั้นควรจะอยู่ในระดับ 2-4 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ เราจึงไม่แนะนำให้คุณอดอาหารหรือทำตามแผนลดน้ำหนักเป็นช่วงๆ เพื่อที่จะลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น
2. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารเช้า. การเริ่มวันใหม่ของคุณด้วยการทานอาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพเป็นสิ่งดีที่สุดที่จะทำได้ในเวลาที่คุณกำลังลดน้ำหนัก อาหารเช้าดีๆ จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ ทำให้คุณเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นในวันนั้น และยังทำให้คุณอิ่มนานขึ้น ลดแนวโน้มที่จะทานของว่างในช่วงเช้าและช่วงบ่าย ซึ่งจะทำให้คุณได้รับแคลอรีที่สูงขึ้น ลองทานทั้งซีเรียลธัญพืช ขนมปัง ไข่ที่มีโปรตีนสูง และผลไม้ที่มีวิตามินสูงในยามเช้า เพื่อให้มีสมดุลทางโภชนาการในมื้อเช้า หากคุณต้องรีบ ทานผลไม้ปั่นและซีเรียลแบบแท่ง เพื่อความสะดวกแต่ก็ให้ประโยชน์
คุณควรดื่มน้ำหนึ่งแก้วก่อนอาหารเช้า (และก่อนอาหารทุกมื้อในแต่ละวัน) เพราะการดื่มน้ำก่อนอาหารสามารถป้องกันร่างกายของคุณไม่ให้สับสนระหว่างความหิวและความกระหายน้ำ ซึ่งอาจจะทำให้คุณทานมากเกินกว่าที่ต้องการ นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายของคุณไม่ขาดน้ำซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากๆอีกด้วย3.ทานให้น้อยลงแต่ทานบ่อยขึ้น. เป็นเรื่องปกติของคนที่ลดน้ำหนักในการจะต้องทนหิวระหว่างมื้อ และสุดท้ายพวกเขาก็จะทานมากกว่าที่จำเป็นเมื่อถึงเวลาทาน เคล็ดลับในการลดน้ำหนักข้อหนึ่งก็คือ การทานบ่อยขึ้นในหนึ่งวันแต่ทานน้อยลงในแต่ละมื้อ
- การทานน้อยลงแต่บ่อยขึ้นสามารถป้องกันไม่ให้ร่างกายหิวจนเกินไป ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ทานน้อยลง กระตุ้นระบบเผาผลาญ ซึ่งจะเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นในหนึ่งวัน
- ลองทาน 6 มื้อเล็กๆ ต่อวัน แทนที่จะทาน 3 มื้อใหญ่ คุณจะพบว่าการทำตามแผนลดน้ำหนักนั้นง่ายขึ้นในระยะยาว เมื่อคุณไม่ต้องหิวอยู่ตลอดเวลา
4.ทานไขมันที่ดีต่อสุขภาพ. คนที่ลดน้ำหนักหลายคนเชื่อว่าพวกเขาควรหลีกเลี่ยงไขมันอย่างเด็ดขาดเมื่อพยายามลดน้ำหนัก แต่จริงๆ แล้ว การทานไขมันที่ดีปริมาณหนึ่งก็จำเป็นต่อการทานอาหารให้สมดุลและสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ ที่จริงแล้วมีงานวิจัยแนะนำการลดน้ำหนักแบบที่มีอัตราส่วนไขมันไม่อิ่มตัวสูงขึ้น (อโวคาโด ถั่ว เมล็ดพืช ถั่วเหลือง และช็อคโกแลต) ซึ่งสามารถป้องกันการสะสมของไขมันบริเวณหน้าท้อง ดังนั้นในแต่ละวัน คุณควรทานไขมันที่ดี 25-30% จากแคลอรีที่ได้รับทั้งหมด ไขมันไม่อิ่มตัวที่มีพันธะคู่ เช่น โอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่พบได้ในปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน ปลาเฮอร์ริง ถั่ววอลนัท น้ำมันคาโนล่า และเต้าหู้ เป็นไขมันดีอีกประเภทหนึ่งที่คุณควรทาน ไขมันนี้จะช่วยลดคอเลสเตอรอลส่วนที่ไม่ดี และช่วยบำรุงสมอง ในทางกลับกัน ไขมันทรานส์ (trans fat) ที่พบได้ในเนยเทียม ขนมปังกรอบ คุ้กกี้ หรืออะไรก็ตามที่ทำมาจากน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี จะส่งผลให้มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องมากขึ้น ดังนั้นคุณควรจะหลีกเลี่ยงมันให้มากที่สุด
5.ทานใยอาหาร (fiber) ให้มากขึ้น. อาหารที่มีใยอาหารสูงเป็นส่วนสำคัญของอาหารที่ดีต่อสุขภาพด้วยหลายปัจจัย ลำดับแรกคือ อาหารที่มีใยอาหารสูงช่วยให้ลำไส้ทำงานปกติ ซึ่งลดอาการบวมป่องและอุดตันของลำไส้ลง ลำดับที่สองคือ อาหารที่มีใยอาหารสูงช่วยให้อิ่มนานขึ้น และทำให้เคี้ยวนานขึ้นเพื่อช่วยไม่ให้ทานมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีแคลอรีต่ำกว่าอาหารประเภทอื่นๆ อีกด้วย
ลองทานอาหารที่มีใยอาหารสูงหลายๆ ชนิด เพื่อที่จะได้รับประโยชน์จากใยอาหารที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ตัวอย่างของเส้นใยที่ละลายน้ำ ได้แก่ ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เล่ย์ ถั่ว แอปเปิล แครอท และผลไม้จำพวกส้ม สำหรับเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำ ประกอบไปด้วยอาหารที่ได้จากรำข้าวและเมล็ดธัญพืช อาหารที่มีส่วนประกอบของธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วบางชนิด และผักใบเขียว เส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ สามารถลดระดับอินซูลินได้ ซึ่งช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันบริเวณหน้าท้อง
น้ำเปล่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะน้ำเปล่าสามารถลดอาการท้องป่องและทำให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ อย่างไรก็ตาม หากคุณเบื่อความไม่มีรสชาติของน้ำเปล่า ลองดื่มน้ำเปล่าโดยใส่ใบสะระแหน่ เลม่อน มะนาว ราสป์เบอร์รี่แช่แข็ง หรือลองผสมกันดู ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้เลย น้ำวิตามินหรือชาที่หวานโดยธรรมชาติก็เป็นทางเลือกที่ดีแทนน้ำอัดลมเช่นเดียวกัน อย่าใช้หลอด คุณควรจะเลิกใช้หลอดในการจิบน้ำ เพราะการใช้หลอดทำให้คุณมีอากาศในช่องท้องมากขึ้น ทำให้เกิดอาการบวมและมีหน้าท้องใหญ่ขึ้น ดื่มจากแก้วไปเลยจะดีกว่า
6.หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูป. ถึงแม้ว่าคุณจะควบคุมปริมาณอาหารอย่างเคร่งครัดและออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่คุณจะไม่สามารถลดน้ำหนักได้หากคุณยังทานอาหารสำเร็จรูปอยู่เรื่อยๆ เพราะอาหารสำเร็จรูปมักจะมีปริมาณแป้งและน้ำตาลสูง ซึ่งทำให้ลดน้ำหนักได้ยากและเพิ่มสารอันตรายอีกด้วย
ระมัดระวังในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีฉลาก “ไร้ไขมัน” (non-fat) เช่น ชีส ขนมปัง โยเกิร์ต เป็นต้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะมีไขมันต่ำ แต่กลับมีน้ำตาลสูง มีคาร์โบไฮเดรตชนิดไม่จำเป็น และให้สารอาหารน้อยมาก อาหารชีวจิตแช่แข็งบางชนิดก็ไม่ได้แย่นักหากคุณอ่านฉลากให้ละเอียด ตรวจดูส่วนผสมและปริมาณ
คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปที่มีเกลือในปริมาณมาก เช่น อาหารปรุงสำเร็จ หรืออาหารแช่แข็ง เพราะเกลือจะทำให้เกิดการกักเก็บน้ำและเกิดอาการบวม ถ้าเป็นไปได้ คุณควรทานอาหารที่ทำใหม่ๆ จะดีกว่าการทานอาหารแช่แข็งทุกครั้งที่ทำได้
7.ทุ่มเทให้กับการออกกำลังกาย. หากคุณอยากได้เอวที่เพรียวบางจริงๆ คุณจะต้องทุ่มเทให้กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและเคร่งครัด ผลลัพธ์ดีๆ จะมาจากการลงแรงและความทุ่มเทเท่านั้น ดังนั้นคุณควรจะมีความตั้งใจจริงก่อนจะเริ่ม อย่างไรก็ตาม การเริ่มออกกำลังกายอย่างหนักทันทีอาจทำให้คุณท้อแท้และล้มเลิกความตั้งใจได้ง่ายๆ
ในการออกกำลังกายให้สำเร็จ ลองออกกำลังในระดับที่เหมาะสมก่อน แล้วค่อยๆ พัฒนาตัวเองให้ออกกำลังกายหนักขึ้นและนานขึ้น บันทึกการออกกำลังกายทุกครั้งในสมุดบันทึก หรือไดอารี่ เพื่อดูพัฒนาการของตัวเอง ในที่สุดคุณจะพบว่าคุณสามารถออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอโดยไม่รู้สึกเหนื่อยมากหรือท้อแท้ คุณจะได้รับประโยชน์ทั้งในเรื่องรอบเอวที่เล็กลง รวมไปถึงสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://th.wikihow.com/